ผมได้อ่าน Post บน FB ของท่านอาจารย์บุญเกียรติ ชีวะตระกูลกิจที่เขียนเรื่องราวของการทำงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในลักษณะที่เป็นร่วมมือกันและผลประโยชน์ร่วมกันในเชิงผลประโยชน์แห่งชาติ ภาครัฐและภาคเอกชนนั้นไม่สามารถขาดกันได้ จะต้องอยู่ร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยทุนนิยม ไม่งั้นถ้าเป็นภาครัฐทั้งหมดก็จะกลายเป็นสังคมนิยมกันไปหมด
เป็นเวลานานมากแล้วที่ผมไม่ได้มีโอกาสมาเขียนอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวอย่างนี้ เพราะมัวแต่เขียนบน FB เขียนกันสั้นๆเป็นส่วนใหญ่ ทำให้สมาธิสั้นลงเรื่อยๆครับ บังเอิญมีโอกาสได้คุยกับท่านอาจารย์บุญเกียรติในประเด็นเหล่านี้เช่นกันครับ
กลับมาที่ประเด็นยุทธศาสตร์ ผมเองก็ไม่เคยสอนเรื่องการจัดการเชิงยุทธศาสตร์หรือที่เรียกกันในหมู่วิชา MBA กันว่าการจัดการเชิงกลยุทธ์หรือว่าการบริหารเชิงกลยุทธ์ (Startegic Management) ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเราจะเห็นว่ามีกระบวนการหรือรูปแบบที่เป็น Pattern ในการจัดการออกมาเป็นหนังสือหรือขั้นตอนที่แน่นอน ประเด็นตรงนี้ไม่ยากนัก เหมือนคนเล่นดนตรี ก็เล่นตามโน้ตไป แต่ถ้าเพลงแต่งมาไม่ไพเราะถึงเล่นได้ก็อาจจะไม่มีคนฟังหรือไม่ก็ขายไม่ได้ ในมุมมองผมเรื่องของกระบวนการในการจัดการนั้นไม่น่าเป็นปัญหาเท่าไหร่นัก แต่มุมมองความเข้าใจในเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Views)ต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญ เพราะยุทธศาสตร์เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์เพื่อเอาตัวรอด เมื่อจำเป็นที่จะปรับเปลี่ยนหรือแปลงการดำเนินงานเพื่อให้ชนะคู่แข่งขันหรือชนะต่อปัญหา เพียงแต่ว่าวันเราเห็นความหายนะแล้วหรือยัง รู้ตัวบ้างหรือเปล่า ประเมินตัวเองเป็นอย่างไร เราเป็นศุนย์ของทุกสิ่งหรือ เราหลอกตัวเองหรือเปล่า แล้วเราหลอกประชาชนหรือเปล่า
ปัญหาของประเทศไทยเราในปัจจุบัน ไม่รู้ว่าทำไมเราไม่รู้ตัวหรอกหรือว่า เราไม่มีทิศทางในการนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายที่แน่นอนในอนาคต ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือไม่ แต่ดูเหมือนกับว่าประเทศไทยเรากำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้าด้วยการพัฒนามากมายที่เกิดขึ้น เรากำลังจะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูง แต่ผมก็ยังไม่เห็นปลายทางหรือเป้าหมายของการพัฒนาที่เด่นชัดเลย ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารประเทศที่มาจากฝ่ายไหนก็ตาม
เราได้หยุดประเทศ ด้วยการหยุดคิดเชิงยุทธศาสตร์ไปนานแล้ว แต่ก็ยังแสร้างทำเป็นว่าเรามียุทธศาสตร์ เพราะว่าถ้าเรามียุทธศาสตร์กันจริงๆแล้ว เมื่อ่านจากยุทธศาสตร์แล้ว เราน่าจะเห็นอนาคตของเราว่าจะไปทางไหน ไปที่ไหน ไปถึงที่หมายได้อย่างไร แต่นี้เรามีแต่ตัวที่เขียนไว้ว่า "ยุทธศาสตร์" แล้วก็ตามด้วยกรอบงบประมาณ อยู่เต็มบ้านเต็มเมืองแทยจะทุกหน่วยงาน แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ที่แน่ๆดูเหมือนว่าเราเขียนยุทธศาสตร์เหมือ่เขียนแผนการทำงานประจำปีเพื่อเบิกเงินตามงบประมาณอย่างไรอย่างนั้นเลย ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก และน่าเสียอย่างยิ่ง หรือผมเข้าใจผิด
เราต้องเข้าใจว่าบทบาทของภาครัฐที่จะต้องสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการสร้างงานสร้างเงินเพื่อให้ประชาชนอยู่ได้และสร้างเงินเข้าประเทศ ถ้ายังจะอยู่ในโลกเสรีและเชื่อมโยงกับโลกทั้งหลายโดยเฉพาะการก้าวเข้าสู่ AEC ในเวลาอันใกล้นี้ ประเด็นยุทธศาสตร์ของภาครัฐนั้นจะต้องเข้ามาเสริมหรือเติบเต็มการทำงานของภาคเอกชนให้เป็นการบูรณาการเป็นหนึ่งเดียวและทีมเดียวเท่านั้น นั่น คือ ทีม Thailand ซึ่งหาได้ยากมากนักในสภาพการณ์ปัจจุบันนี้ แม้แต่ความร่วมมือในเชิงยุทธศาสตร์ของภาครัฐเองที่จะต้องทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการดำเนินงานทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานให้กับการทำงานของภาคเอกชน ในเมื่อภาครัฐกันเองยังไม่มีเอกภาพหรือความเป็นองค์รวมเพราะแต่ละหน่วยงานยังไม่สามารถบูรณาการกันเป็นเนื้อเดียวกันได้ ต่างคนต่างก็อ้างกฎหมายไว้ก่อนว่า ต่างคนต่างถือกฎหมายกันคนละฉบับ แล้วกฎหมายเหล่านั้นก้ไม่บูรณาการกัน เราเอากฎหมายมาเป็นเจ้าชีวิตของเรานั้นหรือ เราเขียนมันขึ้นมาแล้วก็มอบชีวิตเราตรึงชีวิตเราให้กับกฎหมายนั้นโดยไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปเลยหรือ มันทำได้อย่างนั้นจริงเลยใช่ไหม
ผมมองแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ด้วยรถไฟความเร็วสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ผมได้ยินแต่เหตุผลว่า เราไม่ได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมานานหลายสิบปีแล้ว ก็นั่นน่ะสิแล้วทำไมเพิ่งจะมาคิดได้ แล้วตอนที่ควรจะสร้างแล้วทำไมไม่สร้าง ปล่อยให้ถึงเวลานี้ ผมเองไม่ใช่ไม่เห็นด้วยนะครับ แต่ผมไม่เห็นปลายทางของยุทธศาสตร์นี้ว่าจะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้างในเชิงยุทธศาสตร์หรือมี Impact ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง แล้วผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับสิ่งที่อยู่รอบตัวเราเอง แล้วเราแต่ละคนจะต้องเตรียมอย่างไรบ้าง นอกจากเตรียมตัวเป็นหนี้แล้ว
ยุทธศาตร์ในระดับชาติทุกๆยุทธศาสตร์ไม่ควรจะเขียนกันเอง ตั้งกันเอง โดยความเป็นธรรมชาติของยุทธศาสตร์มีความเป็นองค์รวมในตัวไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ของกระทรวงใดในด้านใดก็ตามล้วนมีความเชื่อมโยงกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเราจะให้ความสำคัญกับความเชื่อมโยงเหล่านั้นอย่างไร เพราะที่สุดแล้วยุทธศาสตร์ชาติหรือยุทธศาสตร์ประเทศจะต้องนำพามาซึ่งความมั่นคงของประเทศ ความั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และความมั่นคงของมนุษย์ของประชาชนในชาติ
เรื่องราวความเป็นไปของสังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มุมมองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมนั้นไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ความรวดเร็วของการติดต่อสือสาร ความเชื่อมโยงกันเป็น Network ที่เชื่อมต่อกันมากขึ้นได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อน หรือ Unpredictable ประเด็นเช่นนี้ได้สร้างปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างรวดเร็วทั่วทุกมุมโลก พื้นฐานความคิดของสังคมโลกเปลี่ยนแปลงไป พื้นฐานความคิดของสังคมไทยก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยสำหรับคนแต่ละรุ่นของสังคม
การมองยุทธศาสตร์และการคิดเชิงยุทธศาสตร์แบบดั้งเดิมนั้น ใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ตั้งแต่การคิดเชิงยุทธศาสตร์ (Staregic Thinking) เพราะบริบทของสังคมเปลี่ยนแปลงไป โครงสร้างพื้นฐานของสังคมเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนคิดเร็วขึ้น ข้อมูลสารสนเทศมีอยู่มากมายที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ หรือไม่คนเราทั่วไปก็ไม่คิดอะไรเลย ก็เชื่อตามข่าวสารที่ได้รับมา
และประเด็นของการสร้างแบบจำลองของยุทธศาสตร์ (Strategic Modeling) ก็ต้องเปลี่ยนไปอีกตามความซับซ้อนของบริบทของสังคมซึ่งเปลี่ยนจาก Simple หรือ Linear ไปเป็น Complex หรือ Chaos หรือ Non-linear มากขึ้น เครื่องมือที่ช่วยในการทำแบบจำลองหรือช่วยในการคิดใจก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย
ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่ Leadership ของผู้นำในทุกระดับของสังคม คงจะไม่ใช่แค่ผู้นำประเทศเท่านั้น แต่เป็นเราทุกคนที่นำองค์กร ผู้นำแผนก ผู้นำกลุ่ม ผู้นำครอบครัว และที่สุดแล้วตัวเราเองทุกคนที่นำชีวิตตัวเราจะต้องมีความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดรอบตัวเราทั้งในเชิงสังคมที่เราเป็นคนสร้างขึ้นและในเชิงธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่กำลังปรับตัวจากผลกระทบที่เกิดจากน้ำมือของเราผู้เป็นมนุษย์ เพราะว่าเราทุกคนก็ต้องคิดและวางแผนยุทธศาสตร์ให้กับชีวิตของแต่ละคนโดยไม่รู้ตัว แล้วประเทศที่เราอยู่ยังไม่สามารถกำหนดยุทธศาสตร์ได้อย่างชัดเจนแน่นอน เราประชาชนจะคาดหวังหรือดำนเนินชีวิตอย่างมียุทธศาสตร์ได้อย่างไร ในเมื่อยุทธศาสตร์ของเราประชาชนแต่ละคนจะต้องถูกขับเคลื่อนไปบนยุทธศาสตร์ประเทศ นี่แหละครับความเติมเต็มกันระหว่างภาครัฐและเอกชนและประชาชน เพราะความสามารถของประเทศนั้นมาจากการขับเคลื่อของเอกชนและประชาชน แต่ถ้ารัฐไม่สามารถเป็นคนที่อำนวยความสะดวกได้ ไม่สามารถเป็นที่ประสานงานและส่งเสริมประชาชนและเอกชน ก็อย่าหวังเลยครับที่เราจะต่อสู้และแข่งขันกับชนชาติอื่นๆในโลก หรือแต่แค่เอาตัวให้รอดก็ยากอยู่เหมือนกัน ครับ!
วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556
ขับเคลื่อนประเทศด้วยยุทธศาสตร์ ไม่ใช่งบประมาณ
00:35