วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

My Thoughts : Lean VS Supply Chain

ผมตอบคำถามนี้ไว้ใน Facebook จึงนำมาเก็บเป็นที่เป็นทางไว้ใน Blog ด้วยครับ

  • อาจารย์คะ เห็นอย่างไรกับประโยค...

    Lean ใหญ่กว่า Supply Chain คะ

    ตามปกติ คนสนใจเรื่อง Lean ก็ไม่สนใจ Supply Chain
    คนสนใจเรื่อง Supply Chain ก็ไม่ค่อยจะสนใจเรื่อง Lean
    สังเกตจากการซื้อหนังสือของลูกค้าบางกลุ่มนะคะ... แม้จะมีขาประจำ ที่ซื้อทุกเล่มก็เถอะค่ะ



เป็นเรื่องธรรมดาครับ คนส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนี้ครับ ไม่ผิดหรอกครับ  จะเข้าใจอย่างไร ขอให้มีกิน มีใช้ ทำเงินได้เยอะ ก็ OK นี่ครับ  ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย   ส่วนผมคิดว่าผมเข้าใจมากกว่า แต่จะไม่มีวันที่เข้าใจที่สุด แต่ก็ไม่เห็นมีคนจะเข้าใจสิ่งที่ผมพูดและนำเสนอสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ   ให้มันกิจกรรมและเรื่องราว Flow ไปอย่างนี้ก็แล้วกันครับ ให้พัฒนาตัวเองครับ

โดยปกติ คนที่คิดว่าตัวเองเป็นลีนหรืออยู่ในวงการลีน มักจะไม่เข้าใจ หรือไม่ก็ไม่ได้ให้สนใจความเป็น Supply Chain   และในทางตรงกันข้ามนั้น คนในวงการ Supply Chain ก็มักไม่ได้สนใจเรื่อง Lean มากนัก   ...ทำไมล่ะครับ หาคำตอบไม่ยากครับ  เพราะว่าคนส่วนใหญ่ถูกมอบหมายมาแค่นี้ครับ   ถูกบังคับให้รู้แค่นี้ครับ แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว    นี่คือ ที่สุดแล้วและใหญ่สุดแล้ว    ส่วนอีกพวกก็ Supply Chain ใหญ่สุด เป็นธรรมดาครับ เพราะเราหากินกับมันตรงนั้น  เราก็ต้องเข้าข้างมันสิ
   
อ้าวแล้วอาจารย์วิทยาจะมาว่า Lean และ Supply Chain นั้นเป็นเรื่องเดียวกันได้อย่างไร  อาจารย์วิทยาจะนำทั้งสองอย่างมาผูกกันได้อย่างไร   ...ง่ายนิดเดียวครับ ก็ผมหากินกับทั้ง Lean และ Supply Chain ไงครับ    ผมมีลูกค้า ทำ ศำLean ผมก็เสนอ Lean Supply Chain แล้วก็บอกว่าเป็นเรื่องเดียวกัน  ผมมีลูกค้า Supply Chain ผมก็เสนอ Lean Supply Chain แล้วก็บอกว่าเป็นเรื่องเดียวกัน   ...ผมไม่ได้หลอกลูกค้านะครับ แต่ผม Educate ลูกค้าครับ  ผมกำลังบอกว่า  ผมเป็นคนมองภาพใหญ่ Seeing Forest for the Trees  ยังมีอะไรอีกมากมายที่มีมากกว่า Lean และ Supply Chain อีกครับ มากจริงๆ   แล้วถ้ามีใครมาตั้งคำถามในแนวนี้แล้วนะครับ เขาก็ไม่ได้ผิดนะครับ  Ok  แต่ก็จะเป็นการมองแค่ "ต้นไม้" ไม่ใช่ "ป่า" ครับ 

นั่นแค่ Intro ยาวๆ ที่เป็นพื้นฐานของการคิดและการมองเท่านั้น เพื่อให้คนที่อ่านได้เข้าใจหรือปรับจูนคลื่นของความคิดให้ตรงกับผม ไม่ตรงก็ไม่เป็นไรครับ ก็คุยกันไป โกรธผมเพราะว่าไม่รู้เรื่องหรือคำพูดผมแทงใจดำไป ก็ต้องขอโทษด้วย หรือจะเลิกคบผม unfriend ไปเลยก็ไม่ว่ากันครับ  พอเข้าใจหรือหาทางมาโต้กับผมได้ ก็มาคุยกันใหม่ครับ

Lean และ Supply Chain มีส่วนที่เหมือนกัน คือ ทั้งสองมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน  คือ  Value  และ Value Creation Process หรือ Business Process ถ้าจะถามว่าใครใหญ่กว่าใคร  ก็แล้วแต่ครับ ผมพูดให้ Lean ใหญ่กว่าก็ได้ ไม่ยากเลย   หรือในทางตรงกันข้าม พูดให้ Supply Chain ใหญ่กว่าก็ได้ ก็ยิ่งง่ายใหญ่   แต่ประเด็นที่เราต้องสนใจก็คือ Lean และ Supply Chain นั้นมันสัมพันธ์กันอย่างไร  เพราะเราเริ่มต้นด้วยว่า ผลลัพธ์สุดท้ายขององค์กรที่ทำ Lean และ Supply Chain ก็ต้องการทำกำไร หรือ สร้าง Value ให้กับลูกค้าเหมือนกัน



สังเกตง่ายๆ เวลาคนทั่วไปเขาพูดถึง Lean นะ เขาพูดว่า Lean Production, Lean Enterprise, Lean Healthcare  Lean Manufacturing, Lean Accounting,  Lean Logistics แล้วก็ Lean Supply Chain   ผมมีข้อสังเกตนะครับ  ความหมายของ Lean นั้นเป็นคำขยาย เป็นคำคุณศัพท์ (Adjective) ที่จะต้องอยู่หน้านาม (Noun) เพื่อขยายความหมายของคำนามนั้น   ส่วน Supply Chain นั้นเป็นคำนามโดยแท้  คราวนี้จะมาถามว่าใครใหญ่กว่าก็กระไรอยู่   เช่น  red car คำว่า red คือ สีแดงเป็นคำคุณศัพท์ขยาย car รถ ที่เป็นคำนาม  แล้ว red กับ car ใครใหญ่กว่ากัน   หรือ fat boy   คำว่า fat คือ อ้วน เป็นคำคุณศัพท์ขยาย boy เด็กชาย ที่เป็นคำนาม   แล้ว fat กับ boy ใครจะใหญ่กว่ากัน   เห็นไหมครับว่ามันคนละเรื่องกันเลย  ระหว่างคำคุณศัพท์และคำนาม   บางครั้งพื้นฐานการสื่อสารด้วยภาษาเรานั้นยังไม่ดีพอ หรือเราไม่ได้ให้ความสนใจในการสื่อสาร ทำให้ต้องพูดแต่ภาษาบ้านๆๆ ภาษาคนพื้น  ทำให้การสื่อสารความรู้ในองค์กรนั้นไม่มีประสิทธิภาพ  ผมหมายความว่า เราจะต้องสื่อสารกันในระดับนามธรรม (Abstract) มากขึ้นในมุมของการพัฒนา   ส่วนในมุมของการปฏิบัติก็คงจะต้องเข้าบริบท (Context) และทำให้นามธรรมกลายเป็นรูปธรรม (Concrete) มากขึ้นเพื่อคนหมู่มากในการใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์หรือคุณค่าที่แท้จริง

ถ้าเราเข้าใจ Lean ในระดับหนึ่ง เราจะเห็น Supply Chain ในกิจกรรมของลีน  ผมบอกเสมอว่า ใน Supply Chain จะมีกิจกรรม Make (Manufacturing) หรือ กิจกรรม Move (Logistics)  มันก็คงจะเห็นง่ายกว่าว่า  เราทำกิจกรรมลีนที่เราเห็นและรู้จักกัน ในกระบวนการผลิต ในกระบวนการลอจิสติกส์  ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่อ้างตัวเองว่า ทำลีน แล้วไม่เห็นความสำคัญของ Supply Chain ทั้งๆ ที่ตัวเองนั่นแหละ ทำลีนอยู่บน Supply Chain ... นั่นแสดงว่า พวกเขาเหล่านั้นยังไม่เห็นความสำคัญของ Supply Chain บางครั้งยังไม่รู้เลยว่า ตัวเองก็มี Supply Chain อยู่แล้ว  ...นี่ไงครับ ระดับของความรู้และปัญญา ที่ทำให้เราเปิดกว้างรับรู้ความเป็นไปของบริบทรอบๆ ซึ่งจะทำให้เราอยู่รอด  เราต้องเรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเรา ใครรู้ก่อนและทำให้เกิดปัญญาก่อนก็ได้เปรียบ

ส่วนคนในวงการ Supply Chain นั้น ก็ทำหรือจัดการเป็นแบบลีนไปโดยไม่รู้ต้วก็มีเยอแยะไป  เช่น พยายามลด Inventory พยายามลด Lead Time  การทำ VMI (Vendor Managed Inventory) หรือ ระบบ Barcode และ ERP  และ Information System ต่างๆ  กิจกรรมพวกนี้มีผลในการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการใน Supply Chain เพื่อตอบสนอง Value ที่ลูกค้าต้องการ  ที่จริงแล้ว ตัวที่สร้างคุณค่านั้นคือ Supply Chain นะครับ  ไม่ใช่ Lean  ...แต่ Lean จะช่วยให้เราปรับปรุง Supply Chain ให้สร้างคุณค่าได้ ดีกว่า เร็วกว่า และถูกกว่า

ความเป็น Lean กับ Supply Chain ใครใหญ่กว่ากัน ตอบยาก  ...ลองดูนี่นะ  big chair, big room, big building,  big department, big company, big industry, big country   ดูสิว่า คำว่า big มันก็ขยายตามคำนามจากเล็กไปใหญ่เหมือนกัน    ดังนั้นมันเปรียบเทียบกันไม่ได้ครับ   แต่ถ้าไม่มี Supply Chain นะ ไม่มี Lean ครับ เพราะว่าเราทำ Lean บนกิจกรรมการสร้างคุณค่าในองค์กร และกิจกรรมการสร้างคุณค่าในองค์กรส่วนใหญ่จะอยู่บน Supply Chain   เพียงแต่ว่ากิจกรรม Lean ที่เราเห็นที่เราสัมผัสนั้น ส่วนมากจะเป็นกิจกรรมการปรับปรุงที่อยู่หน้างาน ในพื้นที่ปฏิบัติงาน   กิจกรรมของลีนจึงถูกแยกส่วนออกมากระบวนการใน Supply Chain จึงทำให้ผู้นำลีนมาปฏิบัติ ไม่เห็นภาพของ Supply Chain    ทำแต่ลีนอย่างเดียวที่หน้างาน Kaizen กันไปเรื่อยๆ  Kanban กันไปเรื่อยๆ   ผมรับรองครับ ไม่ work ครับ  เพราะว่า  TPS คือ Lean Supply Chain ครับ  ...Toyota แสดงให้เห็นในส่วนที่เห็นได้หน้างาน เวลาไปดูในโรงงาน  แต่เบื้องหลังยังมีอีกเยอะครับ ถ้าไม่มี Supply Chain ก็ไม่มี TPS ไม่มี Lean ครับ 

ผมไม่อยากจะฟันธงลงไปว่า ใครใหญ่กว่า หรือเล็กกว่า  แต่ผมต้องอธิบายอย่างนี้ เพื่อผู้อ่านจะได้ไม่ต้องจำ  ย้ำ ไม่ต้องจำ  แต่ต้องเข้าใจ  ต้องเข้าใจ เข้าใจในความสัมพันธ์   ต้องเห็นระดับของการสื่อสาร ตั้งแต่ นามธรรม ไปสู่รูปธรรมผ่านบริบทต่างๆ   ผมก็ยังยืนยันเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ  ใครไม่เข้าใจหาว่าผมมาพูดอะไรที่จับต้องไม่ได้อย่างนี้อีกแล้ว ก็ไม่เป็นไรครับ เลิกคบผมไปก่อน   เผื่อว่าในอนาคตเมื่อเข้าใจแล้ว ค่อยมาคุยกันใหม่ ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ   เรื่องนี้ คนเราเจออะไรๆ มาไม่เหมือนกัน  หลายคนๆ ถูกสอนให้ทำตาม ไม่ได้ถูกสอนให้คิดตาม   หรือในหลายๆ ครั้ง บริบทสิ่งแวดล้อมก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้มองและคิดตาม  ที่สำคัญ โรงเรียนและมหาวิทยาลัยมันแย่จริงๆ สอนแต่ความรู้ ไม่ได้สอนให้สร้างปัญญาครับ   Lean หรือ TPS เป็นเรื่องของการใช้ปัญญา   ซึ่งจะต้องมีการทดลองเพื่อให้เกิดปัญหา  ห้องทดลองให้เกิดปัญญานั้นก็คือ กระบวนการธุรกิจซึ่งอยู่ในโซ่อุปทานนั้นเอง