My
Perspectives : 3-2015 แล้วเสียงของประชาชนจะมีความหมายอย่างไร? การใช้พลังประชาชนผ่านการเลือกตั้งหรือการทำประชามติคือวิถีทางหนึ่งในระบอบประชาธิปไตย
วันนี้วิธีการใช้อำนาจของผู้ที่มีอำนาจนั้นก็ไม่ง่ายนัก ถึงแม้ว่าจะมีอำนาจล้นฟ้า ล้นแผ่นดิน เพราะว่าโลกเราไม่เหมือนเดิม การคมนามคมและการติดต่อสื่อสารทำให้เราและทุกคนในโลกเชื่อมต่อกัน ทำให้สังคมมีหูมีตามากขึ้น และคนทั่วไปก็มีความคิดมากขึ้น หรือไม่? เร็วๆนี้ท่านนายกฯกล่าวปรารภว่า ถ้าร่างรัฐธรรมนูญนั้นไม่ผ่านประชามติ ก็ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ นี่สิครับ
พลังของประชาชน ที่เรียกว่า ประชามติ เพียงแต่ว่าวันนี้ เราจะสามารถมีประชามติหรือไม่ ที่จริงแล้วมันก็ คือ การเลือกตั้งนั่นเอง ซึ่งเป็นเครื่องมือหนึ่งในการฟังเสียงประชาชน เป็นวิถีทางหนึ่งของประชาชนที่ใช้ในการแสดงถึงพลังของประชาชน
แต่วันนี้ท่านผู้มีอำนาจนั้นจะเลือกใช้เครื่องมือนี้เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสนี้หรือไม่ หรือแค่ท่านนายกฯแค่พูดหยอกไปอย่างนั้นเอง ท่านอาจจะไม่ได้อยากทำจริงๆก็ได้ ทั้งนี้ก็แล้วแต่ท่านผู้มีอำนาจจะกรุณา แต่ถ้าเราได้ทำประชามติแล้ว ร่างรัฐธรรมนุญนั้นไม่ผ่าน แล้วก็ต้องกลับมาทำมาใหม่ การคงอยู่ของ คสช.และสภาฯทั้งหลายก็จะยืดยาวออกไปอีก การเลือกตั้งก็จะถูกยืดออกไปอีก ความเป็นประชาธิปไตยที่อำนาจของประชาชนไม่ได้ถูกกำจัดสิทธิและเสรีภาพก็จะถูกยืดยาวออกไปอีก นั่นอาจจะเป็นหลุมพลางหรือไม่ เพราะว่าถ้าไม่มีการทำประชามติแล้ว ให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลัง เหมือนคราวก่อนนั้น ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร
ประชาชนจะได้รัฐธรรมนุญตามที่ประชาชนต้องการหรือไม่ หรือถึงเวลาจะแก้จริงๆกลับไม่สามารถแก้ได้ด้วยเหตุผลทางการเมืองและไม่ใช่การเมือง ก็ต้องลองคิดดู แต่ก็คงได้แต่คิด แต่อาจจะทำอะไรไม่ได้
เมื่อพูดถึงเสียงของประชาชนนั้น หลายคนหลายพวกหลายกลุ่มนั้นต่างก็อ้างเสียงประชาชน ไปขุดเอาตัวเลขมาจากไหนก็ไม่รู้ว่า ประชาชนต้องการอย่างนี้และอย่างนั้น ที่สุดแล้วก็ใช้กำลังประชาชนหรือมวลชนที่กลายเป็นมวลมหาประชาชนมาเป็นเครื่องมือแห่งความรุนแรงเพื่อเป็นเครื่องบ่งชี้ว่านี่คือพลังของประชาชนอย่างแท้จริงด้วยจำนวนคนเป็นๆ ทั้งๆที่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินทั้งของทั้งส่วนตัวและสาธารณะ แต่หลายๆคนก็สนับสนุนและทำไมเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่พอถึงกระบวนการเลือกตั้งหรือการทำประชามติ ก็กลับไม่สนับสนุนและทำการต่อต้านการเลือกตั้ง ความคิดตรงนี้แหละครับที่ทำลายโครงสร้างและกฎระเบียบของสังคมโดยนำเอาความรุนแรงและการใช้พลังอำนาจในการต่อสู้และทำลายทรัพย์สินและชีวิตเข้ามาแทนที่ โดยไมได้คำนึงถึงสิ่งที่พวกเราพวกเดียวกันตกลงว่าจะอยู่ร่วมกันในสังคมและพัฒนาไปด้วยกัน นั่นคือ กฎหมาย
เรื่องราวทั้งหมดก็มีอยู่เพียงเท่านี้จริงๆ ทุกวันนี้เราสงบสุขได้ก็เพราะปืน เพราะความกลัวในความรุนแรง แต่ก็เป็นเรื่องดีที่สงบได้และไม่ใครเจ็บตาย แต่ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันและความคิดเห็นร่วมกันและการยอมรับของทุกคนในสังคมและสังคมโลกเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกคนจะต้องมาตกลงร่วมกันและปฎิบัติตามกฎต่างๆที่สร้างร่วมกันไว้ และต้องช่วยกันรักษาและป้องกันไม่ให้มีใครละเมิดกฎนั้น ความมีอภิสิทธิ์ของคนในสังคมที่อยู่เหนือกฎหมายนั้น คือ การคอรัปชั่นและเป็นการบ่อนทำลายโครงสร้างของสังคมซึ่งทำให้ฉุดรั้งการพัฒนาของสังคมให้เจริญตามไปในสังคมโลก เมื่อผู้คนเกิดความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน กฎที่เคยบังคับใช้ร่วมกันกลับไม่ได้ผลหรือไร้อำนาจบังคับ เพราะเจ้าหน้าที่หรือพนักงานกลับไม่เป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย นี่ก็จะเป็นสิ่งที่บ่อนทำลายสังคมอย่างมาก นี่คือสถานการณ์ที่เป็นจริงที่เกิดขึ้นและเราได้ประสบกันมาอยู่ทุกวันนี้ แล้วเสียงของประชาชนจะมีความหมายอย่างไร?