ความตายเป็นส่วนหนึ่งชีวิต ก่อนจะตายก็ต้องมีเกิด ระหว่างเกิดก่อนตายก็ต้องมีชีวิต หลังจากตายไปแล้ว เราจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ และก่อนเราจะมาเกิดนั้น เราเป็นอย่างไรมากก่อนเราก็ไม่รู้ เท่าที่เรารับรู้ก็แค่เกิด แล้วมีชีวิตอยู่แล้วก็ตาย เป็นวัฏจักรกันไป ชีวิตใครชีวิตมัน บางคนก็บอกว่า เรามีชีวิตก่อนหน้านี้และมีชีวิตหลังความตาย ทั้งหมดเป็นการเดินทางจากชีวิตหนึ่งในชาตินี้ไปยังอีกชีวิตหนึ่งในชาติหน้า แต่ก็ยังไม่มีใครบอกได้อย่างแน่ชัดว่า ชีวิตมันถูกดำเนินการอย่างนั้นจริงๆอย่างที่เราคิดหรือไม่
เราก็แค่มีความสงสัยว่า เรามาจากไหน เมื่อชีวิตที่แล้วเราเป็นอะไรมาก่อน ชีวิตที่เป็นอยู่นี้ก็พออยู่ได้ ส่วนชีวิตที่เลวร้ายก็ผ่านไป หวังไว้ว่าก่อนตายจะมีชีวิตที่ดีๆ กับเขาบ้าง (โอ้ โห หนังชีวิตจริงๆครับ) แล้วหลังเราตายไปแล้วจะเป็นอย่างไรดีล่ะเนี่ย ถ้าเรารู้เส้นทางเดินของชีวิตเราล่ะ แล้วชีวิตเราจะเป็นอย่างไรบ้าง เราจะเกิดเมื่อไหร่ เราไม่รู้หรอก พ่อแม่เรายังไม่รู้เลยว่าจะเกิดมาแน่หรือไม่ ยิ่งวันตายแล้ว ยิ่งไม่รู้ ใครล่ะเป็นคนกำหนด แล้วเราจะอยู่มีชีวิตในโลกอย่างไรดี จะอยู่นานๆ ไปทำไม ถ้าเรารู้ว่าชีวิตในชาติหน้ามันดีกว่าชีวิตปัจจุบัน ทำไมไม่รีบตายไปมีชีวิตในชาติหน้าเสียเลยล่ะ หรือถ้ารู้ว่าชีวิตหน้าไม่ดีกว่าชีวิตนี้ เราก็ใช้ชีวิตนี้ให้เต็มที่ซะเลย พอมีเวลาเยอะๆในชีวิตนี้ก็หาทางวิ่งเต้นติดสินบนกับพระเจ้าหรือคนจัดตารางชีวิตว่าช่วยปรับชีวิตหน้าให้ดีกว่าที่กำหนดไว้ได้ไหม บุญที่ทำในชาตินี้พอจะใช้ชดเชยในชาติหน้าได้หรือไม่
ที่จริงแล้วที่ผมคิดมานั้นอาจจะผิดหมดก็ได้ ทั้งหมดนั้นเราคิดไปเอง ทั้งหมดมันไม่จริงเลย ไม่มีโลกที่แล้ว ไม่มีโลกหน้า มีแต่ชีวิตนี้เท่านั้น ชีวิตเราก็ไม่แตกต่างจากมดที่เราเดินเหยียบตายไป แล้วมันก็เกิดขึ้นมาอีกตามวัฏจักร มนุษย์เรานั้นก็อย่าคิดว่า ตัวเองจะดีเลิศกว่าสรรพสิ่งอื่นในพื้นพิภพนี้ มนุษย์เราก็เป็นเพียงหมากตัวหนึง่ในเกมที่ชื่อว่า “โลก” ที่ทุกคนทุกสิ่งเล่นตามบทบาทที่ผู้กำกับ (พระเจ้า) ได้เขียนมาให้เราเกิดและตายตามกำหนด ตามดวง กำหนดให้เรามาเจอกัน รักกัน มาเกลียดกัน มาฆ่ากัน มาช่วยเหลือกัน มาเป็นครอบครัวเดียวกัน และที่สุดแล้วทุกอย่างที่เราทำไปนั้นมันไปตกอยู่ที่ไหนกัน ทั้งความดีและความเลวทั้งหมด KPI ทั้งหลายนั้น บุญที่สะสมกันมานั้นจะนำไปแลกของสมนาคุณหรือแลกแต้มลด % ได้เหมือนในห้างเซ็นทรัลจริงหรือไม่
ถ้าทุกอย่างถูกกำหนดให้มาแล้ว หรือแม้แต่สิ่งที่เราคิดว่าเราเป็นนายของตัวเราเอง ซึ่งก็คือ อำนาจการตัดสินใจนั้น มันยังเป็นของเราหรือไม่ หรือว่าเราถูกกำหนดมาให้ตัดสินใจอย่างนั้นอยู่แล้ว เราก็เล่นไปตามบทบาทนั้น ก็คือ จงใช้ชีวิตไปให้เต็มที่เหมือนกินเป๊ปซี่ เออ! แล้วสิ่งที่เรารู้สึกอยู่ในเวลานี้ล่ะ คือ อะไร มันจะหมดไปเมื่อเราตายไปหรือไม่ เออ! แล้วเราจะมากังวลใจหรือสงสัยในสิ่งที่ไม่เข้าเรื่องทำไมกัน สุดท้ายแล้ว ผมก็ต้องมาจบที่คำถามว่า ชีวิต คือ อะไรอยู่ดี? และผมก็เชื่อว่าไม่มีมนุษย์คนไหนรู้ได้ ถึงแม้ว่าจะรู้ก็อาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ในโลกนี้แล้วก็ได้
ดังนั้นสิ่งที่ทำให้เรามีชีวิตที่ดีที่สุดก็ คือ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ปัจจุบัน คือ สิ่งที่เรารู้สึกได้ เป็นตัวตนมากที่สุด เป็นชีวิตมากที่สุด ทุกครั้งที่เรานึกถึงชีวิตที่ผ่านมา และชีวิตที่จะมาถึง มันไม่สะท้อนการมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันจริงๆ มันเป็นแค่ข้อมูลที่เกิดขึ้นไปแล้ว (อดีต) และข้อมูลที่เราอยากจะให้เกิดขึ้น (อนาคต) ถ้าการคิดถึงชีวิตที่ผ่านมาทำให้ชีวิตปัจจุบันดีขึ้นก็ทำเถอะครับไม่มีใครว่า ถ้าคิดถึงชีวิตในอนาคตแล้วทำให้มีกำลังใจในการพัฒนาชีวิตในปัจจุบัน ก็ทำเถอะครับ ทั้งๆ ที่เราอาจจะไปไม่ถึงสิ่งที่เราอยากจะเป็นหรืออยากจะได้ในอนาคต ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้ เราคาดไม่ถึง เพราะมีผู้เล่นในละครเรื่อง “โลก” นี้อีกมากมาย บทบาทต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันไปมาอย่างไม่รู้จบจนเราไม่สามารถรับรู้ทุกเรื่องได้ จงมีสติอยู่กับปัจจุบันเล่นตามบทบาทที่ถูกกำหนดมา รับรองว่าเราน่าจะรู้จักคุณค่าของชีวิตเรามากขึ้น และเมื่อนั้นเวลาที่ความตายมาถึง มันก็เป็นแค่จุดเปลี่ยนผ่านจากชีวิตในโลกนี้ไปยังสถานะที่เราไม่รู้จัก (ชีวิตหน้า?) แต่เมื่อถึงวันนั้นแล้วจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะไม่มีประสบการณ์ครับ และคิดว่าเมื่อถึงเวลาทุกคนก็คงจะทราบดีครับ ทุกคนเลย.