บูรณาการยุทธศาสตร์ชาติในทุกภาคส่วน (1) : แนวคิด
มีหลายคนมักจะตั้งคำถามถึงแผนยุทธศาสตร์หลักหรือแผนแม่บทของประเทศว่าที่จริงแล้วคืออะไรกัน พูดกันง่ายๆ ว่ายุทธศาสตร์หลักหรือแผนแม่บทของประเทศ คือ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชาตินั่นเองซึ่งเป็นแผนหลักของประเทศที่ครอบคลุมไปถึงกิจกรรมในทุกภาคส่วน หรือจะมองในอีกมุมมองหนึ่ง ยุทธศาสตร์หลักหรือแผนหลักของประเทศ คือ แผนของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมองครอบคลุมไปถึงความมั่นคงแห่งชาติในทุกรูปแบบ และยังมีแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ อีกมากมายในหน่วยงานต่างๆ ในทุกภาคส่วน แล้วแผนยุทธศาสตร์เหล่านี้จะมาบูรณาการเป็นยุทธศาสตร์ชาติได้ตามที่ควรจะเป็นหรือไม่? อย่างไรก็ตามความเป็นชาติ ประเทศและรัฐนั้นมีองค์ประกอบอยู่หลายอย่างที่หลอมรวมกันเป็นระบบสังคมและประเทศในรูปแบบที่ทุกคนในสังคมได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้มีความเชื่อมโยง (Linked) และมีปฏิสัมพันธ์ (Interactions) ซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา และผลประโยชน์เหล่านี้จะทวีความซับซ้อนยิ่งขึ้นเมื่อสังคมเปลี่ยนแปลงไปตามแรงกดดันทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ
แผนยุทธศาสตร์หลักของประเทศ
ยุทธศาสตร์หลักหรือแผนแม่บทของประเทศควรจะกล่าวถึงทุกภาคส่วนของการบริหารจัดการประเทศเพื่อให้เกิดเป็นผลประโยชน์แห่งชาติ จากยุทธศาสตร์หลักของประเทศ ภาคส่วนต่างๆ ก็จะนำยุทธศาสตร์หลักของประเทศไปปฏิบัติจนกลายเป็นยุทธศาสตร์ย่อยของแต่ละภาคส่วนหรือแต่ละกระทรวง ถ้าจะเปรียบเทียบให้ง่ายก็เหมือนกับทีมฟุตบอลทั้งทีมจะต้องมีแผนการเล่นของทีมเพียงแผนเดียวเท่านั้นในเกมการแข่งขัน จากนั้นสมาชิกของทีมในแต่ละส่วนที่เป็นกองหลัง กองกลางและกองหน้า จะต้องมีแผนในการเล่นที่จะต้องสอดคล้องไปกับแผนหลักของทีมเท่านั้น ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ทีมฟุตบอลก็คงจะไม่มีสภาพความเป็นทีมและจะไม่สามารถทำประตูในการแข่งขันได้
ก่อนที่จะพูดถึงยุทธศาสตร์ต่างๆ เราจะต้องรู้ถึงเป้าหมายของยุทธศาสตร์นั้นว่าคืออะไร? เป้าหมายนี้จะกำหนดกระบวนการ (Process) กลไก (Mechanism) หรือ กฎ (Rules) รวมทั้งทรัพยากรต่างๆ (Resources) และผลลัพธ์ของกระบวนการสร้างคุณค่า (Value Creation Process) สำหรับความเป็นชาติหรือประเทศแล้ว คุณค่าหรือผลประโยชน์ของชาติ คือ ประชาชนในประเทศมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีความเจริญก้าวหน้าและความมั่นคงในชีวิต ยุทธศาสตร์หลักของชาติจึงเป็นการตัดสินใจในการวางแผนไปในอนาคตสำหรับกระบวนการจัดสรรทรัพยากรของชาติเพื่อให้ประชาชนในชาติสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข และสามารถพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้มีความมั่นคงในการอยู่รวมกันในสังคมโลก
บทบาทของภาครัฐในการบริหารจัดการประเทศจึงมีความแตกต่างและซับซ้อนไปจากการบริหารจัดการองค์กรธุรกิจหรือการบริหารจัดการชีวิตของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่แนวคิดหรือหลักการในการจัดการนั้นสามารถประยุกต์ใช้ด้วยกันได้ เพียงแต่ผู้ที่นำไปใช้จะเข้าใจบริบทของแต่ละระดับของการนำไปปฏิบัติอย่างลึกซึ้ง เพราะบริบทของชาติ รัฐ และประเทศนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับบริบทขององค์กรธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตามหลักการคิดและหลักการบริหารทั่วไปยังสามารถประยุกต์ใช้ได้อยู่ ดังนั้นทุกเป้าหมายที่เราบรรลุผลสำเร็จได้เป็นคุณค่าหรือผลประโยชน์ที่เราต้องการจึงต้องถูกสร้างมาจากกระบวนการสร้างคุณค่า (Value Creation Process) ที่ประกอบไปด้วยทรัพยากรต่างๆ ตั้งแต่วัตถุดิบ เครื่องจักร คน สารสนเทศ และวิธีการ รวมทั้งงบประมาณ
ถ้าเราต้องการให้ประเทศไทยมีความสามารถในการสร้างคุณค่าหรือผลประโยชน์แห่งชาติซึ่งสามารถรับมือและต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกได้อย่างมีความมั่นคงและยั่งยืน เราจะต้องไปพิจารณาที่กระบวนการความเป็นชาติ รัฐและประเทศ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และกิจกรรมการดำเนินชีวิตประจำวันประชาชนในชาตินั้นๆที่เป็นกิจกรรมในการสร้างคุณค่าหรือผลประโยชน์ในทุกระดับชั้นของชาติอยู่ทุกวัน โดยเริ่มตั้งแต่ประชาชนทุกคนตื่นนอน ออกไปทำงานหรือเรียนหนังสือ ออกไปพักผ่อนหรือหาความสำราญจนถึงเวลาที่ประชาชนเข้านอนและนอนหลับพักผ่อนอย่างมีความสุขจนตื่นนอนขึ้นมาอีกครั้ง มาทำกิจกรรมในฐานะพลเมืองของประเทศอีกครั้งหนึ่งในแต่ละวัน นี่คือเป้าหมายของการบริหารจัดการประเทศที่มีกระบวนการหรือขั้นตอนมากมายที่พุ่งเป้าไปที่กิจกรรมของประชาชนทุกคน ถ้าประชาชนทุกคนสามารถดำเนินชีวิตได้ตามแผนหรือเป้าหมายในชีวิตที่วางไว้ และแผนการดำเนินชีวิตของประชาชนทุกคนสอดคล้องไปกับยุทธศาสตร์ชาติของประเทศ ประเทศชาติก็น่าจะเจริญก้าวหน้าได้ตามยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้
ปัญหาของชาติ
ถ้าประเทศมียุทธศาสตร์ชาติที่ดีแล้ว ปัญหาของชาติคืออะไร? ปัญหาของชาติ คือ การดำเนินงานของประเทศชาติ แต่ไม่ได้สามารถบรรลุผลลัพธ์ (Result) ที่เป็นผลประโยชน์แห่งชาติหรือคุณค่า (Values) ตามที่วางแผนไว้ นั่นแสดงว่ากระบวนการหรือขั้นตอนที่บริหารจัดการทรัพยากรของประเทศเป็นปัญหาหรือไม่เป็นไปตามในสิ่งที่ควรจะเป็น ปัญหามีอยู่ 2 ลักษณะ คือ 1) กระบวนการหรือขั้นตอนในการสร้างคุณค่าหรือผลประโยชน์ที่ไม่ได้ถูกดำเนินการตามขั้นตอนที่ควรจะปฏิบัติหรือที่ถูกวางแผนไว้ นี่เป็นปัญหาในเชิงปฏิบัติการ เราสามารถแก้ไขในระดับปฏิบัติการได้ ถ้าแผนที่วางมานั้นอาจจะเหมาะสมอยู่แล้วก็เพียงให้ปฏิบัติตามแผน 2) ผลลัพธ์หรือผลประโยชน์แห่งชาติที่ได้จากการปฏิบัติการที่เป็นไปตามแผนงานนั้น แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมหรือลูกค้า เพราะสิ่งที่ทำอยู่เดิมๆ ใช้ไม่ได้แล้วหรือไม่สามารถแข่งขันได้แล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้ถ้าการปฏิบัติหมือนเดิมก็ไม่มีประโยชน์แล้ว สิ่งที่ต้องทำก็คือ ต้องคิดใหม่หรือวางแผนใหม่ (Rethink or Replan) เพื่อให้เกิดการปฏิบัติการใหม่หรือเกิดกิจกรรมการสร้างคุณค่าใหม่ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์แห่งชาติใหม่ที่ดีกว่า
ดังนั้นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่กระบวนการหรือขั้นตอนที่สร้างผลประโยชน์แห่งชาตินั่นเอง สรุปได้ว่า สถานการณ์ของปัญหาโดยทั่วไปมีดังนี้ คือ 1) การจัดการกระบวนการมีปัญหา เพราะไม่สามารถสร้างผลประโยชน์แห่งชาติได้ตามที่วางแผนไว้ จึงต้องไปแก้ไขวิธีการในกระบวนการสร้างคุณค่าให้ถูกต้องเหมาะสม 2) หรือในอีกประเด็นหนึ่ง คือ คุณค่าหรือผลประโยชน์แห่งชาติเดิมที่ปฏิบัติกันมาใช้ไม่ได้ ไม่สามารถตอบสนองต่อประชาชนหรือไม่สามารถแข่งขัน เราต้องไปแก้ไขปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงกระบวนการหรือขั้นตอนในการสร้างคุณค่าเพื่อให้เกิดเป็นผลประโยชน์แห่งชาติที่ต้องการ
ผลประโยชน์แห่งชาติ
แล้วผลประโยชน์แห่งชาติคืออะไร? และประกอบด้วยภาคส่วนอะไรบ้าง? ชาติจะต้องมีบุคคลในชาติที่มารวมตัวกันเป็นประเทศโดยคำนึงถึงผลประโยชน์แห่งชาติร่วมกัน ประเทศชาติจะอยู่ได้อย่างมีความมั่นคงและยั่งยืนได้จะต้องมีคนในชาติที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมของประเทศชาตินั้นๆ โดยที่เราจะต้องพิจารณาชีวิตคนตั้งแต่เกิดจนตาย ดังนั้นการบริหารจัดการประเทศคือ การอำนวยความสะดวกในการจัดสรรทรัพยากรให้คนในประเทศสามารถมีชีวิตที่ดีและช่วยกันพัฒนาสังคมให้ทุกคนในชาติมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยอยู่ได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงปลอดภัย
จากบทความของท่าน อ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ “จากครรภ์มารดาสู่เชิงตะกอน” ที่กล่าวถึงบทบาทและหน้าที่ของภาครัฐจะต้องดูแลและอำนวยความสะดวกชีวิตประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย เราจะเห็นได้ว่ามีหน่วยรัฐทุกหน่วยงานมีหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างมีคุณค่า เพราะผลประโยชน์แห่งชาตินั้นเกิดจากกิจกรรมต่างๆในสังคมที่ประชาชนในชาติได้ปฏิบัติร่วมกันทั้งในด้านส่วนตัวและส่วนรวม ดังนั้นบทบาทหน้าที่ของภาครัฐจึงเป็นการอำนวยความสะดวกในการดำเนินกิจกรรมของประชาชนในชาติให้เป็นไปอย่างที่บุคคลและภาครัฐได้วางแผนไว้เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืนของประเทศ
การบูรณาการ คือ อะไร
ในหลายภาคส่วนของภาครัฐหรือภาคเอกชนมีการพูดถึงการบูรณาการอยู่เสมอ แต่ในหลายโอกาสเราก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่า การบูรณาการ (Integrations) คือ อะไร? แต่เราสามารถที่จะสัมผัสได้หรือรู้ถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหรือในบางครั้งเราอาจจะได้ทำการบูรณาการไปโดยไม่รู้ตัว การบูรณาการเป็นมากกว่าการนำเอาสิ่งต่างๆ มารวมกันหรือการเอาสิ่งที่แตกต่างกันมารวมกันเหมือนการเย็บเล่มหนังสือ แต่ถ้าในอดีตเราอาจจะทำอย่างนั้นได้เพราะว่าบริบทของสังคมเราไม่ได้มีความซับซ้อนอย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้ ยิ่งคุณค่าหรือผลประโยชน์ที่เราต้องการสูงขึ้นหรือผลประโยชน์แห่งชาติที่เราคาดหวังไว้สูงขึ้น กระบวนการสร้างผลประโยชน์แห่งชาติก็ยิ่งมีองค์ประกอบมากขึ้นหรือมีความซับซ้อนสูงขึ้น โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกันและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆในกระบวนการสร้างผลประโยชน์ คุณค่าหรือผลประโยชน์แห่งชาติที่เราต้องการนั้นจะถูกสร้างมาจากกระบวนการสร้างคุณค่า (Value Creation Process)ที่ประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆที่หลากหลายแตกต่างกันตามฟังก์ชั่นหน้าที่ของแต่ละภาคส่วนที่มีหน้าที่ในการสร้างคุณค่าหรือผลประโยชน์นั้นทั้งในทางตรงและในเชิงสนับสนุน ดังนั้นองค์ประกอบหรือทรัพยากรต่างๆจึงได้ถูกนำมาจัดสรรอย่างมีความเชื่อมโยงและมีปฏิสัมพันธ์กันจนมีโครงสร้างที่เป็นระบบ (Systemic)ที่สามารถควบคุมได้อย่างมีกลไกและสามารถพัฒนาและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิมได้ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของบริบทของสังคมในประเทศและสังคมโลก
คุณค่าหรือผลประโยชน์ที่ได้จากการบูรณาการองค์ประกอบของกระบวนการสร้างคุณค่านั้นจะต้องไม่เหมือนองค์ประกอบเดิม หมายความว่าเมื่อมารวมกันแล้วต้องได้คุณค่าใหม่หรือสิ่งใหม่ ตัวอย่างเช่น เอาเศษเหล็กมากองรวมกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังคงเป็นเศษเหล็กอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้าเราเอาเศษเหล็กมาต่อกันอย่างมีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกัน เราจะได้คุณค่าใหม่หรือผลประโยชน์ใหม่ซึ่งก็คือ รถจักรยาน เราจะเห็นได้ว่าทั้งกองเศษเหล็กและรถจักรยานก็เป็นเหล็กเหมือนกัน แต่คุณค่าหรือประโยชน์ในการใช้งานไม่เหมือนกัน รถจักรยานมีคุณค่าหรือผลประโยชน์มากกว่ากองเศษเหล็กอย่างแน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้น คือ จักรยานเกิดจากการบูรณาการเศษเหล็ก ดังนั้นการบูรณาการเป็นการสร้างสิ่งใหม่หรือคุณค่าใหม่หรือผลประโยชน์ใหม่ที่เกิดจากการนำเอาองค์ประกอบต่างๆที่แตกต่างกันตามฟังก์ชั่นการใช้งานมาสร้างผลลัพธ์ให้เป็นคุณค่าใหม่หรือผลประโยชน์ใหม่ โดยที่ทุกองค์ประกอบหรือทุกฟังก์ชั่นการใช้งานของกระบวนการจะต้องมีเป้าหมายหรือเข้าใจในเป้าหมายเดียวกัน เหล็กทุกชิ้นในรถจักรยานมีเป้าหมายเพื่อเป็นส่วนประกอบหนึ่งให้กับรถจักรยาน แต่เศษเหล็กในกองเหล็กไม่ได้มีเป้าหมายอะไรเลย ไม่ได้มีฟังก์ชั่นการใช้งานหรือผลประโยชน์ใหม่เลย เราจะต้องรู้ว่าคุณค่าหรือฟังก์ชั่นของตัวเองนั้นจะมีผลต่อเป้าหมายสุดท้ายที่เป็นผลลัพธ์อย่างไร
ตัวอย่างในการบูรณาการอีกตัวอย่างหนึ่ง คือ ทีมฟุตบอล ถ้าเราเอาคน 11 คน ลงไปเล่นฟุตบอลในสนามโดยไม่วางแผนอะไรเลย เราก็จะมีแค่คน 11 คนกำลังเตะลูกฟุตบอลอยู่ แล้วเราลองพิจารณาดูว่า คน 11 คนจะเล่นฟุตบอลชนะหรือไม่ ในทางกลับกันเราจะต้องทำให้คนทั้ง 11 คนที่มีคุณค่าหรือมีฟังก์ชั่นในการเล่นฟุตบอลตามตำแหน่งหน้าที่ต่างๆตั้งแต่ศูนย์หน้า กองกลาง กองหลังและผู้รักษาประตู ซึ่งทุกคนในทุกตำแหน่งเป็นทีม (Team) หรือมีความเป็นทีม (Teamwork) ดังนั้น โค้ชจะต้องสร้างให้นักฟุตบอล 11 คนสื่อสารด้วยภาษาในการเล่นด้วยภาษาและความเข้าใจเดียวกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เวลาเล่นก็วางแผนเป็นแผนเดียวกันเสมอ แต่เวลาเล่นในสถานการณ์ต่างๆทุกคนก็มีแผนของตัวเองซึ่งจะต้องสอดคล้องกับแผนหลักของทีม เช่น แผนกองหลัง แผนกองกลาง แผนกองหน้า ซึ่งแผนทั้งหมดจะไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนใหญ่ที่ทุกคนรับมาดำเนินงานโดยมีเป้าหมายในการยิงประตูเหมือนกัน ถ้าไม่มีแผนใหญ่หรือแผนยุทธศาสตร์แล้ว ผู้เล่นทุกคนก็ไม่รู้แผนของคนอื่นๆในทีมว่าจะเล่นด้วยกันอย่างไร จะส่งบอลหรือรับบอลกันอย่างไร หรืออาจจะกลายเป็นต่างคนต่างเล่น แล้วคนจำนวน 11 คนนี้จะเป็นทีมฟุตบอลได้อย่างไร
สิ่งที่จะทำให้เกิดการบูรณาการได้คือ การที่มีอะไรที่ตรงกันหรือ Compatible หรือสามารถเข้ากัน ได้หรือความเป็นมาตรฐาน (Standardization) เดียวกัน เมื่อมองในเชิงกายภาพจะหมายถึง แบบเดียวกัน ขนาดเดียวกัน รูปร่างเข้ากันพอดีต่อกันได้ แต่เมื่อมามองในเชิงสังคมหรือกลุ่มคนก็คือ ความเข้าใจในด้านการสื่อสาร ภาษา แนวคิดและวัฒนธรรมเดียวกัน ถ้ามองในลักษณะขององค์กรก็ คือ ทุกคนในองค์กรมีวิสัยทัศน์ร่วมกันและอยู่ภายใต้กฎระเบียบเดียวกัน ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นเพื่อทำให้ได้คุณค่าหรือผลประโยชน์ที่ต้องการ
บูรณาการไม่ใช่แค่การรวมตัว
แผนยุทธศาสตร์ในระดับต่างๆของการจัดการจะต้องมีความเป็นบูรณาการในตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาอย่างเป็นระบบที่สามารถควบคุมและปรับเปลี่ยนได้ ที่จริงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นผลลัพธ์จากกระบวนการสร้างคุณค่าก็เกิดจากการบูรณาการองค์ประกอบหรือขั้นตอนต่างๆที่เป็นฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆของกระบวนการสร้างคุณค่าหรือผลประโยชน์นั้นๆ ซึ่งเราสามารถเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบเหล่านั้นได้เป็นอย่างดีจนเราสามารถควบคุมและปรับปรุงกระบวนการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการหรือเพื่อตอบสนองต่อสภาวะแวดล้อมเพื่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน
ยุทธศาสตร์ชาติของประเทศจะต้องระบุถึงผลลัพธ์ของยุทธศาสตร์ชาติที่เป็นผลประโยชน์แห่งชาติและกิจกรรมในฟังก์ชั่นหน้าที่ต่างๆในภาคส่วนต่างๆในกระบวนการสร้างคุณค่าที่มีผลกระทบต่อผลประโยชน์แห่งชาติ ยุทธศาสตร์ชาติจึงต้องกำหนดความสัมพันธ์ขององค์ประกอบหรือฟังก์ชั่นต่างๆในภาคส่วนต่างๆในกระบวนการสร้างคุณค่าเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติ ยุทธศาสตร์ชาติของประเทศจึงต้องมีลักษณะของการบูรณาการฟังก์ชั่นการทำงานของภาคส่วนต่างๆที่เป็นองค์ประกอบในกระบวนการสร้างผลประโยชน์แห่งชาติหรือสามารถกำหนดความสัมพันธ์ (Relationships) และการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน (Interactions) ภาคส่วนหรือฟังก์ชั่นงานในแต่ละภาคส่วนไม่ได้อยู่กันอิสระ (Independent) หรือเป็นเอกเทศ(Individual) ทุกฟังก์ชั่นหรือภาคส่วนต่างๆก็มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน (Interrelated) และขึ้นตรงต่อกัน (Dependent)
จากยุทธศาสตร์ชาติที่เป็นแผนใหญ่แผนเดียวซึ่งจะต้องเป็นแผนที่มีองค์ประกอบของภาคส่วนต่างๆที่ถูกบูรณาการเข้ากันเป็นอย่างดี เมื่อยุทธศาสตร์ชาติถูกนำไปแปรสู่การปฏิบัติในแต่ละภาคส่วนในแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ในแต่ละภาคส่วนก็จะต้องเขียนยุทธศาสตร์ของตนเองอย่างบูรณาการใน 2 ส่วน คือ 1) ส่วนของการบูรณาการจากยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนดความสัมพันธ์และการมีปฏิสัมพันธ์กับภาคส่วนอื่นๆ 2) ด้านของการบูรณาการกิจกรรมหรือฟังก์ชั่นภายในแต่ละภาคส่วนเองให้เกิดการระบุถึงความเชื่อมโยงและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมหรือฟังก์ชั่นการทำงานในแต่ละภาคส่วนเพื่อให้เกิดการดำเนินงานสร้างผลประโยชน์ของแต่ละภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีความมั่นคงและความยั่งยืนในการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างผลประโยชน์แห่งชาติของแต่ละภาคส่วน
ดังนั้นยุทธศาสตร์ของแต่ละภาคส่วนจึงจะต้องมีความเชื่อมโยงและความมีปฏิสัมพันธ์กับภาคส่วนอื่นๆตามที่กำหนดในยุทธศาสตร์ชาติ และในขณะเดียวกันยุทธศาสตร์หลักของแต่ละภาคส่วนจะต้องกำหนดความเชื่อมโยงและความมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างกิจกรรมหรือฟังก์ชั่นหน้าที่ในการสร้างผลประโยชน์ของแต่ละภาคส่วน
คน คือหัวใจของการวางแผน
แผนงานต่างๆที่เราใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานนั้นเกิดจากกำลังความคิดและความสามารถของคน หัวใจของการวางแผน ก็คือ คนหรือทรัพยากรบุคคลในการคิดและตัดสินใจ แต่ถ้าแผนนั้นเป็นของคนๆนั้นคนเดียวก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากนัก แต่ยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์ของภาคส่วนต่างๆนั้นมีผลต่อคนทั้งประเทศโดยส่วนรวม มีคนจากหลายภาคส่วนเข้ามาร่วมกิจกรรมหรือฟังก์ชั่นในการทำงานหรือสร้างผลประโยชน์ให้เป็นผลประโยชน์แห่งชาติร่วมกัน จากคนๆเดียวคิดและวางแผนก็จะกลายเป็นคนหลายคนจากหลายภาคส่วนมาร่วมกันทำการคิดและวางแผนร่วมกันเพื่อสร้างยุทธศาสตร์ชาติที่มีองค์ประกอบจากหลายภาคส่วนอย่างบูรณาการกัน
เมื่อยุทธศาสตร์ชาติถูกแปรเปลี่ยนไปสู่แผนแม่บทของแต่ละภาคส่วนซึ่งจะนำพาไปสู่การสร้างผลประโยชน์แห่งชาติ แผนทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าคนหรือผู้วางแผนในแต่ละภาคส่วนรวมทั้งผู้ที่เขียนยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้มีความเข้าใจถึงผลประโยชน์แห่งชาติ ไม่มีความเข้าใจในกระบวนการสร้างคุณค่าของชาติหรือผลประโยชน์ของชาติ และยิ่งถ้าไม่เข้าใจกำลังความสามารถของชาติซึ่งเป็นตัวกำหนดการจัดสรรทรัพยากรต่างๆของชาติเพื่อไปสร้างผลประโยชน์แห่งชาติอย่างมีประสิทธิภาพและอย่างมีความมั่นคงและยั่งยืนแล้ว ยุทธศาสตร์ชาติจะขาดความสมบูรณ์ในเชิงเป้าหมายของผลประโยชน์แห่งชาติไป
การที่จะทำให้คนในชาติเข้าใจผลประโยชน์แห่งชาติและกระบวนการสร้างยุทธศาสตร์ชาติในระดับต่างๆเพื่อให้เกิดการบูรณาการกิจกรรมหรือฟังก์ชั่นในการสร้างผลประโยชน์แห่งชาติ เราจำเป็นที่จะต้องสร้างตัวกลางในการสื่อสารแนวคิดและวิธีการให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ความเป็นมาตรฐานเดียวกันนี้ คือ พื้นฐานในการบูรณาการทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน การวางแผนงานหรือยุทธศาสตร์ต่างๆให้เกิดการบูรณาการนั้นจะต้องทำให้ผู้มีส่วนได้และส่วนเสียในแผนงานต่างๆมีเป้าหมายและทิศทางเดียวกันผ่านเครื่องมือในการสื่อสารเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลประโยชน์ร่วมกันของส่วนรวม สิ่งที่สำคัญที่ถือว่าเป็นแกนกลางของสังคมที่เป็นมาตรฐานให้คนในสังคมได้สื่อสารเพื่อความเข้าใจเป็นหนึ่งเดียวกัน คือ ความเป็นชาติ วัฒนธรรมของชาติ รวมทั้งกฏหมายและระเบียบปฏิบัติต่างๆในกิจกรรมต่างๆในภาคส่วนต่างๆซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงกับผลประโยชน์แห่งชาติ
กระบวนการวางแผน
แผนงานทุกแผนงานเป็นกระบวนการคิดและตัดสินใจเพื่อการดำเนินงานในอนาคต แต่ก็เป็นธรรมชาติที่ทุกอย่างมีความไม่แน่นอนเสมอ อนาคตที่วางแผนไว้อาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดและวางแผนไว้ ดังนั้นกระบวนการวางแผนงานทั้งหลายจะต้องมีกระบวนการติดตามผลเพื่อที่จะประเมินว่าการดำเนินการตามแผนนั้นเป็นไปตามที่วางแผนไว้หรือไม่ ถ้าผลจากการดำเนินงานนั้นไม่ได้เป็นตามแผนแล้ว นั่นแสดงว่าปัญหาได้เกิดขึ้นในกระบวนการดำเนินงานสร้างคุณค่าหรือผลประโยชน์ ซึ่งอาจจะเกิดจากองค์ประกอบต่างๆในกระบวนการหรือไม่ก็เกิดจากกระบวนการวางแผน ดังนั้นการเชื่อมโยงและการทำงานร่วมกันระหว่างผู้วางแผนงานและผู้ที่นำแผนไปปฏิบัติเพื่อที่จะได้ติดตามผลและปรับแผนให้เข้าสถานการณ์เพื่อผลประโยชน์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสังคม
การทำงานร่วมกันเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติร่วมกัน
ในองค์กรทั่วไปมักจะมีบุคคลอยู่ 2 ประเภท คือ คนที่คิดแต่ไม่ได้ทำ คนประเภทนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อองค์กรมากนัก และคนที่ทำแต่ไม่ค่อยได้คิด คนประเภทนี้เป็นอันตรายต่อองค์กร แต่ถ้าคนทั้ง 2 ประเภทหันมาทำงานร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมแล้ว องค์กรนั้นก็จะเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถคิดและวางแผนเพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดคุณค่าหรือผลประโยชน์ได้เป็นอย่างดี ด้วยสภาวะการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการที่มององค์ประกอบของกระบวนการวางแผนและกระบวนการสร้างคุณค่า (ปฏิบัติการ) อย่างเชื่อมโยงกันจากบนลงล่าง (Top-Down) ในการดำเนินการ (Execute) หรือสั่งการ (Command) และในทางกลับกันการเชื่อมโยงจากล่างขึ้นบน (Bottom-Up) ในมุมของการวัดสมรรถนะการดำเนินงาน (Performance Measurement) เพื่อที่จะให้ผู้วางแผนได้ปรับแผนใหม่เพื่อให้การดำเนินงานการสร้างคุณค่าหรือผลประโยชน์เพื่อให้เกิดสมดุลในกระบวนการสร้างคุณค่าและเกิดสมดุลในการสร้างผลประโยชน์โดยส่วนรวม
ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในกระบวนการสร้างคุณค่าหรือผลประโยชน์แห่งชาติ ปัญหาเหล่านั้นอาจจะเกิดจากทั้งการวางแผน (Planning) การดำเนินงาน (Execution) และการทำงานร่วมกัน (Collaboration) ระหว่างการวางแผนกับการดำเนินงาน การบูรณาการที่ดีจะต้องมีมาตรฐานในการเชื่อมโยงและความมีปฏิสัมพันธ์กันของฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆให้เข้ากันเพื่อผลลัพธ์เดียวกัน กระบวนการวางแผนที่ดีก็ต้องมีการบูรณาการที่ดีสำหรับองค์ประกอบต่างๆของการวางแผน กระบวนการดำเนินการที่ดีก็ต้องมีการบูรณาการที่ดีสำหรับองค์ประกอบต่างๆในการดำเนินการ และในขณะเดียวกันการทำงานร่วมกันระหว่างการวางแผนและการดำเนินงานก็ต้องการการบูรณาการที่ดีเช่นกัน ดังนั้นถ้ากระบวนการวางแผนและกระบวนการสร้างผลประโยชน์แห่งชาติมีการบูรณาการทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน ผลประโยชน์แห่งชาติที่ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมก็จะตกเป็นของประชาชนทุกคนอย่างเหมาะสมทำให้ประเทศชาติและสังคมโดยรวมเกิดการพัฒนาการและเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยความมั่นคงและยั่งยืน เมื่อปัญหาเกิดขึ้นเราก็ยังสามารถปรับตัวได้อย่างทันเวลาและมีประสิทธิภาพ
การประชุมทางวิชาการระหว่างหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง 6 สถาบัน ครั้งที่ 2
หัวข้อ “รัฐบาลใหม่กับทิศทางการขับเคลื่อนประเทศไทย”
ประเด็นการนำเสนอ : การบูรณาการยุทธศาสตร์ชาติด้วยแนวคิดโซ่อุปทาน
ดร.วิทยา สุหฤทดำรง
ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการโซ่อุปทาน มหาวิทยาลัยศรีปทุม
นักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) รุ่นที่ 2331 สิงหาคม 2554
วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ประชุม 6 สถาบันฯ -- 3.บูรณาการยุทธศาสตร์ชาติในทุกภาคส่วน (1) : แนวคิด
08:56
กระบวนการ, การสร้างคุณค่า, แนวคิด, บูรณาการ, ประชุม 6 สถาบันฯ, ยุทธศาสตร์