วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Thinking – โครงสร้างความคิดของสังคม

ดูหนังอีกแล้วครับ ผมพักผ่อนด้วยการดูหนัง Series แล้วก็พวกหนัง DVD อะไรต่างๆ ทำนองนั้น ยังมีสารคดีดีๆ อีกมากครับ ผมว่ามันมีเนื้อหาที่ดีในการพัฒนาความคิดอีกด้วย หลายเรื่องสอดแทรกความคิดให้กับคนดูที่เป็นสมาชิกของสังคม ถ้าคนดูในสังคมนั้นคิดเป็น ก็ดีไป และจะดียิ่งขึ้นถ้าเรารู้จักที่จะใช้แนวคิดนั้นให้เป็นประโยชน์ พอดีในระยะหลายทศวรรษที่ผ่านมานี้ ประเทศเราประสบปัญหามากมาย แล้วเราก็มาสรุปได้ตรงที่ระบบคิดของคนไทยเรามีปัญหา และกำลังมีปัญหามากขึ้นเรื่อย ผมอ่านหนังสือหลายเล่ม อ่านบทความหลายบทความ รวมทั้งคุยกับคนอีกหลายๆ คน ผมก็ว่า ความคิดของคนไทยนั้นอีกหลายคนยังเฉียบคมอยู่มาก แต่ทำไมในภาพรวมแล้วยังไม่ได้ไปไหนกันเสียเท่าไรนัก ความคิดของคนๆ เดียวก็อาจจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ มันจะต้องมีกระบวนการอะไรสักอย่างในการเปลี่ยนแปลง คงต้องปฏิวัติความคิดของคนไทย


สุดท้ายเราก็มาโทษกันที่ระบบการศึกษา อย่าว่ากันอย่างนั้นเลยครับ จะให้หน่วยงานการศึกษารับไปแต่เพียงอย่างเดียวผมว่าก็ไม่ถูกเท่าไรนัก ผมนั้นพยายามที่จะไม่ใส่ตัวเองเข้าไปในการศึกษาในระบบหรือ Academic System มากนัก ผมว่าไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่ ผมไม่ได้ว่ามันล้มเหลวอะไรหรอกครับ ผมว่ามันมีข้อจำกัดอยู่หรือระบบการศึกษาทำได้แค่นั้นจริงๆ การศึกษาที่ผ่านมานั้นล้มเหลวจริงหรือ? ผมว่าก็ไม่ทั้งหมดหรอกครับ ทั้งๆ ที่ผมเองก็ต่อต้านการศึกษาในระบบปัจจุบันอยู่นะครับ ตัวผมเองก็เป็นผลพวงจากการศึกษาที่ผ่านมาในอดีต แล้วยังไง ผมก็พอที่จะคิดได้บ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นเลิศนัก


ผมกลับคิดว่า สังคมต่างหากที่ต้องรับผิดชอบในการเรียนรู้ตลอดชีวิต สังคมต่างหากที่เป็นคนที่บอกว่า ให้เอาสิ่งที่เรียนรู้ในโรงเรียนเก็บไว้ สังคมบอกว่ามาเรียนของจริงจากพี่ดีกว่า มาเรียนจากประสบการณ์ชีวิตดีกว่า สังคมต่างหากที่พยายามลดความสำคัญของการเรียนรู้ในระบบแล้วนำมาใช้ในชีวิตจริง สังคมต่างหากที่ทำลายระบบการศึกษาไป ทั้งๆ ที่เด็กนักศึกษาได้รับการเรียนรู้อย่างเป็นระบบมาและพร้อมที่จะนำความรู้และประสบการณ์การเรียนรู้ไปใช้ในชีวิตการทำงานในประจำวัน แต่พอมาทำงานกลับไม่ได้รับการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง กลับไปยึดติดกับระบบศักดินาในการทำงาน ยึดติดกับตำแหน่งและการได้มาซึ่งตำแหน่งหน้าที่การงานเพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่ได้เน้นที่ระบบการเรียนรู้ การเรียนจึงเป็นการเรียนเพื่อใบปริญญาเพื่อปรับวุฒิการศึกษาในการนำไปต่อรองเงินเดือนหรือเพื่อเลื่อนขั้น นั่นเป็นสิ่งที่สังคมได้สอนนักเรียนหรือนักศึกษาของเราหลังจากจบการศึกษาจากระบบโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย


เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วจึงไม่แปลกใจนัก ที่ไม่เพียงแต่เด็กของเราจะไม่ความคิดแล้ว ผู้ใหญ่ของเราในสังคมก็กลับคิดไม่เป็นเหมือนกัน สมน้ำหน้าสังคมไทยที่มีแต่เปลือกของความรู้ ยังไม่เคยเรียนรู้อะไรให้ถึงแก่นกันเลย เพราะว่าคิดไม่เป็น ระหว่างใช้ชีวิตในการทำงานไม่ได้มีโอกาสในการคิด เพราะอะไรล่ะครับ เจ้านายเองคิดไม่เป็นเลย นับประสาอะไรกับลูกน้องที่จะคิดได้ คิดเกินหน้าลูกพี่ก็หมดอนาคตสิ จริงไหม หรือว่าไม่จริงครับ ในขณะเดียวกันทั้งเจ้านายลูกน้องก็ช่วยกันที่จะแต่งตัวทาสีให้เปลือกของตัวว่าเป็นคนมีความรู้ด้วยวุฒิการศึกษาทั้งหลายที่ถูกอุปโหลกและสร้างภาพกันขึ้นมาโดยสถาบันการศึกษาทั้งหลายทั้งปริญญาโทและปริญญาเอก มิน่าเล่า ใครเล่าเรื่องอะไรกรอกหู คนไทยเราก็เชื่อกันไปหมด ใครทำอะไร ผมก็ทำกันตามกันไป โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่า ที่ทำไปนั้นเป็นเพราะเหตุใด เสียดายเวลาออกอากาศของช่อง 9 ที่พยายามทำให้เกิดเป็นสังคมอุดมปัญญา แต่ผมรู้สึกว่าสังคมไทยนั้นไม่ค่อยจะอุดมปัญญาสักเท่าไหร่นัก

เราทำตามแห่และทำตามกันเป็นแฟชั่นกันเสียส่วนใหญ่ เราคิดกันไม่ค่อยเป็นและหาเหตุผลกันไม่ค่อยเป็น ตัวอย่างเช่น เวลาฝนตกหนัก แน่นอนครับมองถนนไม่ค่อยเห็น รถหลายๆ คนเปิดไฟฉุกเฉินเป็นไฟเลี้ยวกระพริบสองข้างซ้ายขวา นั่นผิดนะครับ อันตราย เพราะว่าจะใช้ก็ต่อเมื่อรถจอดข้างทาง ไม่ใช้เมื่อขณะรถวิ่ง ในกรณีเดียวกันนี้ รถที่วิ่งผ่านสี่แยกเล็กๆ ที่ไม่สัญญาณไฟ รถหลายๆ คนชอบเปิดไฟฉุกเฉินเป็นไฟเลี้ยวกระพริบสองข้างซ้ายขวา เพื่อเป็นการบอกรถคันอื่นๆ ว่า จะตรงไป ซึ่งผิดหลักเช่นกัน อันตรายเช่นกัน ผมว่าพวกเราทำตามๆ กันโดยไม่ได้คิด หน่วยงานที่รับผิดชอบก็ไม่ได้ทำอะไร นี่แหละความเป็นไทย น่าภูมิใจไหมครับ


ผมว่าทุกวันนี้เรามีกรณีตัวอย่างต่างๆ มากมายที่แสดงถึงระบบความคิดของคนไทยและสังคมไทย ซึ่งยิ่งวันยิ่งหนักเข้าไปทุกที เพราะการสื่อสารยิ่งรวดเร็วมากเท่าไหร่ และถ้ายิ่งมีระบบคิดน้อยอย่างที่เป็นอยู่ เราก็จะกลายเป็นสังคมแห่งคนที่เชื่ออะไรง่าย สังคมคนหูเบา สังคมที่มีแต่คนที่ไม่คิดและคิดไม่เป็น คนไม่คิดนี้ไม่เท่าไหร่ แต่คนที่คิดไม่เป็นและพยายามคิด คนพวกนี้อันตรายต่อสังคมครับ แต่ก็แปลกที่ทั้งๆ เราเป็นสังคมคนพุทธที่มีวัดวามากมาย มีพระอยู่ทุกหนแห่ง แต่เราก็ไม่เคยนำเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าที่สอนไม่ให้เราเชื่ออะไรง่าย สอนให้เราใช้ปัญญาให้มากๆ แล้วเราจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงความคิดของสังคมเรากันอย่างไรดีล่ะครับ