Life - ผู้แพ้ : ใจของคนเราเองที่เป็นศัตรูในความคิดของเรา (The Enemy within)
คำ ๆ นี้ดูไม่น่าพิศสมัยเลย ดูเป็นคำที่หดหู่มากๆ แต่หลายคนก็เคยเป็นผู้แพ้มาก่อน ผมเองก็เคยรู้สึกอย่างนั้น และเคยคิดว่าตัวเรานั้นเป็นผู้แพ้ ที่เขียนหัวข้อนี้วันนี้ใน ผมไม่ได้คิดว่า ตัวเองเป็นผู้แพ้นะครับ แต่อยากให้ผู้ที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้แพ้ คิดได้ว่าที่จริงแล้วเรานั้นไม่ได้เป็นผู้แพ้สักหน่อย ที่แท้แล้วเรานั้นพ่ายแพ้ตัวเองต่างหาก ศัตรูของเรานั้น ก็คือ ใจเราเองตัวเราเองต่างหาก
ถ้าคิดว่าเราจะเป็นผู้แพ้แล้ว เราก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย ผมเองก็เคยเป็นอย่างนั้นมาก่อน เคยมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้แพ้ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ แต่วันนี้ก็ไม่ได้มีความคิดที่ถดถอยอย่างนั้นอีก จะมีแต่แค่ยังไม่กล้ามากนัก ยังไม่มั่นใจ แต่ถ้ามีโอกาสแล้วก็ขอลองอีกสักตั้ง ถ้าแพ้แล้ว ก็ไม่เป็นไร ถึงแม้ว่าจะแพ้ในเกมกีฬา ในเกมชีวิต ก็ไม่เป็นไร อกหักก็ไม่เป็นไร ขอให้ได้รักก็พอแล้ว ใช่ไหม? ตามที่หลายเพลงร้องกันมาอย่างนั้น เราต้องไม่โทษตัวเราเองมากไปนัก
แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ชนะใจตนเองได้ เมื่อล้มลงแล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่ได้ ด้วยประสบการณ์และสติปัญญา และใจกว้างพอที่จะรับมุมมองที่กว้างขึ้น รวมทั้งประเมินสิ่งที่ผ่านๆ มา เพื่อที่จะสู้ต่อไป ผมจำได้ว่าสมัยเด็กประมาณเรียนจบใหม่ๆ ขาดความมั่นใจ ขาดกำลังใจ ผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า “เหมือนๆ จะแพ้แต่ไม่แพ้” จำไม่ได้แล้วว่า เนื้อหานั้นมีอะไรบ้าง เอาแค่ชื่อก็ยังประทับใจอยู่ มีหนังสือที่เขียนให้กำลังใจอยู่มากมาย หนังสือเหล่านั้นจะไม่มีประโยชน์อันใดเลย ถ้าเราไม่สามารถคิดและชนะใจตัวเองได้
หลายครั้งที่เราคิดว่าเราเป็นผู้แพ้นั้น ที่จริงแล้ว ชีวิตเราไม่มีแพ้ ไม่มีชนะ สำหรับใจเรา ที่ใจเราแพ้นั้นก็เป็นเพราะว่าเราไม่ยอมรับตัวเอง เราไม่ได้ประเมินตัวเอง หรือรักตัวเองมากเกินไป จึงทำให้ไม่เห็นตัวเองในมุมกว้าง ทั้งๆ ที่โอกาสข้างหน้ามีอีกมากที่จะพยายามใหม่อีกครั้งและอีกหลายครั้ง หรือไม่ก็ยังยึดติดกับความสำเร็จในอดีต หรือยศถาบรรดาศักดิ์ที่ติดตัวมาจากอดีต จนยอมรับตัวเองและคนอื่นๆ ไม่ได้ ทำให้ใจเรานั้นรับไม่ได้กับความไม่สำเร็จนั้น ถ้าใจเรารับได้กับความล้มเหลวนั้น และรู้ถึงวงจรแห่งการต่อสู้และปรับปรุงเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการเปลี่ยนความคิด (Mindset) ความเป็นผู้แพ้ก็จะหมดไปเอง สุดท้ายมันก็คือ เราคิดไปเองหรือเปล่า?
ทุกวันนี้ผมเองก็ยังต้องต่อสู้กับใจตัวเองตลอดเวลาเพื่อให้ได้ยืนหยัดและคงอยู่ในการดำรงชีวิตในทุกๆ เรื่องๆ ทำสำเร็จบ้าง ทำได้ดีบ้าง ทำไม่ได้เรื่องก็มีเยอะ ไอ้ที่ไม่กล้าทำก็ยังมีอีกมาก แต่ถ้ามีโอกาส คงต้องลองดู ไม่กลัวที่จะแพ้ ไม่อายที่จะล้มเหลว แต่น่าเสียดายถ้าไม่ได้ลองดูอีกสักครั้ง หรือลองพยายามอีกครั้ง หรือพยายามที่จะชนะตัวเอง
ผมก็เลยไม่ใช่ “ผู้แพ้” เพราะผมไม่เคยกลัวที่จะ “แพ้” ทุกครั้งที่ผม “แพ้หรือล้มลง” ในการแข่งขันหรือในการดำเนินงานหรือการดำเนินชีวิต ผมนั้นเป็น “ผู้ชนะ” เสมอ เพราะผมได้ชนะใจตัวเองที่ได้ตัดสินใจลงไปสู้ในเกมการแข่งขันของชีวิตและการทำงาน ถ้าผมได้มีโอกาสที่จะตั้งใจทำอะไรสักอย่างนี้ แต่ถ้าคุณยังไม่กล้าที่จะทำอะไรใหม่ๆ ให้กับตัวเอง และยังกลัวที่จะล้มเหลว และยังคิดว่าตัวเองนั้น คือ “ผู้แพ้” แล้วล่ะก็ คุณก็เป็น “ผู้แพ้” ตั้งแต่ยังไม่ได้ลงสนามหรือยังไม่ได้ลองทำดูเลย ผมให้กำลังใจทุกคน ให้เป็นผู้ชนะตลอดไปครับ