"ผมเชื่อว่า รองเท้าที่ดีที่สุดคือรองเท้าคู่ต่อไปเสมอ" เป็นวลีที่ The Last Student (TLS) Thanaphon Chearanai ได้ Post ไว้ที่ FB เมื่อ 31 ธ.ค. 2554 และผมได้ไปเห็นเข้าและได้มีโอกาสโต้ตอบแลกเปลี่ยนทางความคิดกับ TLS
ผมตอบ TLS กลับไปว่า “มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด มันอาจจะเป็นวันเก่าๆ ปีเก่าๆ ความหลังเก่าๆ เพราะการเดินไปข้างหน้านั้นหรือการได้สิ่งใหม่นั้น ไม่ได้หมายความว่า ดีกว่าเก่าเสมอไป แต่ก็นั่นแหละครับ ก็ขึ้นอยู่กับเราว่า จะทำมันอย่างไร อย่าลืมว่า รองเท้าคู่เก่า ถึงมันจะเก่า แต่มันก็พาเรามาถึงที่นี่วันนี้ได้นะ แต่ถ้าจะต้องเปลี่ยนใหม่ เราก็จะต้องเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมสำหรับการเดินทางไปข้างหน้า ไม่ใช่ว่าจะลืมคู่เก่าไป ทิ้งคู่เก่าไป คำว่าดีที่สุดนั้นใช้ได้สำหรับช่วงเวลา เช่น วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุด แต่พอตื่นขึ้นมาใหม่ โจทย์ใหม่แห่งชีวิต สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปเสมอ แล้วเราพร้อมสำหรับโจทย์ใหม่ สิ่งใหม่หรือไม่ ถึงแม้ว่าเราจำเป็นที่จะต้องทิ้งสิ่งเก่าไปเพื่อสิ่งใหม่ แต่ผมว่า รองเท้าคู่เก่งอันเก่า ก็ยังคงอยู่ในใจเราเสมอ”
TLS (The Last Student) ตอบกลับมาว่า “ผมนำวลีนี้มาจากหนังสือ Enough : Breaking Free from the World of More ของ John Naish ครับ ผู้เขียนพยายามหาหลักเกณฑ์ทางวิชาการเพื่อสนับสนุนความพอในชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดกับหลักเศรษฐศาตร์อย่างจัง และวลีดังกล่าวมาจาก อีเมลด้า มาร์กอส ครับ”
ผมจึงได้ตอบกลับไปว่า...”ขอบคุณครับ แน่นอนครับ เพราะเธอมีรองเท้ามากมายจริง แต่เราจะมองเห็นความหมายเชิงจิตวิทยาจากคำพูดหรือมุมมองเหล่านี้ได้อย่างไร เพราะถ้าผมรู้ว่ามาจากเธอ ผมก็คงตีความไปอีกอย่างหนึ่ง แต่ที่สุดแล้วมันจะต้องมีปรัชญารองรับเสมอ แม้ว่าคนที่พูดจะไม่ได้หมายความอย่างนั้นก็ตาม ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ ล้วนมีจุดประสงค์ทั้งสิ้น เพียงแต่เราจะรู้ถึงวัตถุประสงค์ของมันบ้างหรือไม่ ถ้าเรารู้ถึงวัตถุประสงค์นั้น เราก็คงทำหรือตอบสนองต่อวัตถุประสงค์นั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษยชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
The Last Student ตอบกลับมาว่า ความหมายเชิงจิตวิทยานี่แหละครับที่ผมต้องการสื่อ มันเป็นสิ่งสะท้อนถึงกระบวนการคิดและตัดสินใจของผู้นั้นได้ แม้จะเป็นแค่วลีเดียวก็ตาม
ผมตอบกลับไปว่า “ถูกต้องแล้วครับ พวกเราเรียนมาทางช่างและวิศวกรรม แต่ขาดความละเอียดอ่อนทางด้านนี้มาก ที่จริงแล้ว เราต้องเรียนปรัชญาของวิศวกรรมเสียก่อน แล้วค่อนเข้าสู่เรื่องราวทางวิศวกรรม น่าเสียดายที่มหาวิทยาลัยที่สอนวิศวกรรมในเมืองไทยไม่เคยสอนเรื่องราวเหล่านี้ มันเป็นความงามอย่างหนึ่ง นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้งานทางวิศวกรรมของเราไม่ค่อยจะรุ่งเรืองเสียเท่าไหร่นัก อาจเป็นเพราะอาจารย์ที่สอนเรื่องราวทางวิศวกรรมไม่ได้สอนวิศวกรรม สอนแต่การคำนวณ ไม่สอนการออกแบบ อาจารย์เหล่านั้นไม่ได้รู้ซึ้งถึงความเป็นวิศวกรรมหรือในความเป็นวิชาชีพ เราๆ และคนที่จบออกมาถึงเป็นกันอย่างนี้ กว่าจะรู้ซึ้งถึงความเป็นอาชีพก็เสียเวลาและความรู้สึกไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เราเรียนกันเอากระดาษใบเดียวกันจริง อาจารย์ก็สอนกันให้ได้เงินค่าสอนกันจริงๆ น่าสงสารการศึกษาไทย ไอ้ Pop เอ็งแน่มาก สมแล้วที่ผมเรียกเอ็งว่า The Last Student”
วันนี้เรามาใหม่และสดกว่า พรุ่งนี้เราก็จะเก่าแล้ว คลื่นลูกใหม่ย่อมที่จะไล่คลื่นลูกเก่า เมื่อเราใหม่เป็น เราก็ต้องเก่าให้เป็น เมื่อเราเป็นรุ่นเก่า เราก็ต้องสนับสนุนส่งเสริมรุ่นใหม่ๆ ให้เก่งยิ่งกว่ารุ่นเก่า ถึงแม้ว่าเราจะเก่าในอายุ เก่าในร่างกาย แต่ความคิดจะต้องไม่เก่าตาม แต่จะต้องต่อยอดสานต่อกับรุ่นใหม่ เพื่อให้ได้สิ่งใหม่ตลอดเวลา ร่างกายเราก็จะเสื่อมถอยตามกาลเวลา แต่ความคิดและจิตใจจะต้องไม่มีวันเก่าตามกาลเวลา
เราเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปีใหม่กันมาโดยตลอด ด้วยความพยายามที่จะลืมความเลวร้ายทั้งหลายที่ผ่านมาแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ในปีใหม่ในทุกๆ ปี แต่เมื่อผ่านพ้นปีใหม่ไป ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิมเป็นวัฏจักร ชีวิตเราเป็นวัฏจักรเป็นวงจร วงจรสั้นๆ ที่เรารับรู้ได้ก็ คือ การหายใจเข้าและออก การตื่นขึ้นจากการนอนหลับจนเราไปเข้านอนพักผ่อนในแต่ละรอบวัน แต่ละรอบเดือนของรายได้ที่เข้ามาในชีวิต แต่ละรอบของฤดู และแต่ละรอบปี ลองคิดดูสิครับว่า กว่าจะมาถึงรอบปีนั้น เราได้ทำอะไรไปตั้งหลายอย่าง มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในชีวิตเรา ทำไมเราต้องรอจนถึงสิ้นปีและปีใหม่ ทำไมเราไม่ฉลองการมีชีวิตอยู่สำหรับแต่ละรอบการหายใจเข้าออกในครั้งต่อๆ ไป ทำไมเราไม่ฉลองกับการที่เราได้ตื่นลืมตาขึ้นมาดูโลกในทุกวันตอนเช้าโดยที่เราไม่ได้หลับตายไป ทำไมเราไม่ตั้งสติในทุกเรื่องทุกจังหวะเวลาของชีวิต เฉลิมฉลองการมีชีวิตอยู่อย่างมีความหมายต่อตนเองและต่อผู้อื่น เพื่อที่จะได้สร้างคุณค่าให้กับโลกที่เราอยู่ กับสังคม ประเทศชาติ และคนที่เรารักทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าเก่าหรือใหม่ มันก็ คือ รองเท้า มันมีคุณค่าในตัวเองซึ่งขึ้นอยู่กับคนที่ใช้งาน บางครั้งหรือในหลายครั้งผมก็ใช้ของเก่า ของมือสอง เพราะว่าไม่มีโอกาสได้ใช้ของใหม่ แต่ของเก่าที่ผมใช้ก็ดีที่สุดสำหรับผมในบริบทที่ผมรับได้ มิใช่ว่าของใหม่จะดีสำหรับผมเสมอไป ถ้าในปีเก่าเป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เราก็ต้องจดจำและสานต่อสิ่งที่ดีที่สุดให้คงอยู่ รักษามันไว้ แต่ถ้ามันจะต้องจากคุณไป เราก็ต้องปล่อยมันไป ก็จงอย่าเสียใจ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เที่ยง แล้ววัฎจักรต่างๆ ในชีวิตก็จะวนเข้ามาอีก เพียงแต่เราจะปรับตัวเราในการสร้างคุณค่าต่างๆ ในชีวิตเราได้อย่างไร
ขอให้ทุกท่านมีความสุข มีสติกับทุกลมหายใจเข้าและออก ทุกวันที่ตื่นตอนเช้า ทุกวันที่เงินเดือนออก ที่เวลาที่เปลี่ยนฤดูกาล และทุกปีที่มีการเปลี่ยนแลง และตลอดเวลาที่เกิดเปลี่ยนแปลงในชีวิตครับ สุขสันต์ปีใหม่ 2555 อีกครั้งครับ
ผมตอบ TLS กลับไปว่า “มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด มันอาจจะเป็นวันเก่าๆ ปีเก่าๆ ความหลังเก่าๆ เพราะการเดินไปข้างหน้านั้นหรือการได้สิ่งใหม่นั้น ไม่ได้หมายความว่า ดีกว่าเก่าเสมอไป แต่ก็นั่นแหละครับ ก็ขึ้นอยู่กับเราว่า จะทำมันอย่างไร อย่าลืมว่า รองเท้าคู่เก่า ถึงมันจะเก่า แต่มันก็พาเรามาถึงที่นี่วันนี้ได้นะ แต่ถ้าจะต้องเปลี่ยนใหม่ เราก็จะต้องเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมสำหรับการเดินทางไปข้างหน้า ไม่ใช่ว่าจะลืมคู่เก่าไป ทิ้งคู่เก่าไป คำว่าดีที่สุดนั้นใช้ได้สำหรับช่วงเวลา เช่น วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุด แต่พอตื่นขึ้นมาใหม่ โจทย์ใหม่แห่งชีวิต สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปเสมอ แล้วเราพร้อมสำหรับโจทย์ใหม่ สิ่งใหม่หรือไม่ ถึงแม้ว่าเราจำเป็นที่จะต้องทิ้งสิ่งเก่าไปเพื่อสิ่งใหม่ แต่ผมว่า รองเท้าคู่เก่งอันเก่า ก็ยังคงอยู่ในใจเราเสมอ”
TLS (The Last Student) ตอบกลับมาว่า “ผมนำวลีนี้มาจากหนังสือ Enough : Breaking Free from the World of More ของ John Naish ครับ ผู้เขียนพยายามหาหลักเกณฑ์ทางวิชาการเพื่อสนับสนุนความพอในชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดกับหลักเศรษฐศาตร์อย่างจัง และวลีดังกล่าวมาจาก อีเมลด้า มาร์กอส ครับ”
ผมจึงได้ตอบกลับไปว่า...”ขอบคุณครับ แน่นอนครับ เพราะเธอมีรองเท้ามากมายจริง แต่เราจะมองเห็นความหมายเชิงจิตวิทยาจากคำพูดหรือมุมมองเหล่านี้ได้อย่างไร เพราะถ้าผมรู้ว่ามาจากเธอ ผมก็คงตีความไปอีกอย่างหนึ่ง แต่ที่สุดแล้วมันจะต้องมีปรัชญารองรับเสมอ แม้ว่าคนที่พูดจะไม่ได้หมายความอย่างนั้นก็ตาม ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ ล้วนมีจุดประสงค์ทั้งสิ้น เพียงแต่เราจะรู้ถึงวัตถุประสงค์ของมันบ้างหรือไม่ ถ้าเรารู้ถึงวัตถุประสงค์นั้น เราก็คงทำหรือตอบสนองต่อวัตถุประสงค์นั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษยชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
The Last Student ตอบกลับมาว่า ความหมายเชิงจิตวิทยานี่แหละครับที่ผมต้องการสื่อ มันเป็นสิ่งสะท้อนถึงกระบวนการคิดและตัดสินใจของผู้นั้นได้ แม้จะเป็นแค่วลีเดียวก็ตาม
ผมตอบกลับไปว่า “ถูกต้องแล้วครับ พวกเราเรียนมาทางช่างและวิศวกรรม แต่ขาดความละเอียดอ่อนทางด้านนี้มาก ที่จริงแล้ว เราต้องเรียนปรัชญาของวิศวกรรมเสียก่อน แล้วค่อนเข้าสู่เรื่องราวทางวิศวกรรม น่าเสียดายที่มหาวิทยาลัยที่สอนวิศวกรรมในเมืองไทยไม่เคยสอนเรื่องราวเหล่านี้ มันเป็นความงามอย่างหนึ่ง นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้งานทางวิศวกรรมของเราไม่ค่อยจะรุ่งเรืองเสียเท่าไหร่นัก อาจเป็นเพราะอาจารย์ที่สอนเรื่องราวทางวิศวกรรมไม่ได้สอนวิศวกรรม สอนแต่การคำนวณ ไม่สอนการออกแบบ อาจารย์เหล่านั้นไม่ได้รู้ซึ้งถึงความเป็นวิศวกรรมหรือในความเป็นวิชาชีพ เราๆ และคนที่จบออกมาถึงเป็นกันอย่างนี้ กว่าจะรู้ซึ้งถึงความเป็นอาชีพก็เสียเวลาและความรู้สึกไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เราเรียนกันเอากระดาษใบเดียวกันจริง อาจารย์ก็สอนกันให้ได้เงินค่าสอนกันจริงๆ น่าสงสารการศึกษาไทย ไอ้ Pop เอ็งแน่มาก สมแล้วที่ผมเรียกเอ็งว่า The Last Student”
วันนี้เรามาใหม่และสดกว่า พรุ่งนี้เราก็จะเก่าแล้ว คลื่นลูกใหม่ย่อมที่จะไล่คลื่นลูกเก่า เมื่อเราใหม่เป็น เราก็ต้องเก่าให้เป็น เมื่อเราเป็นรุ่นเก่า เราก็ต้องสนับสนุนส่งเสริมรุ่นใหม่ๆ ให้เก่งยิ่งกว่ารุ่นเก่า ถึงแม้ว่าเราจะเก่าในอายุ เก่าในร่างกาย แต่ความคิดจะต้องไม่เก่าตาม แต่จะต้องต่อยอดสานต่อกับรุ่นใหม่ เพื่อให้ได้สิ่งใหม่ตลอดเวลา ร่างกายเราก็จะเสื่อมถอยตามกาลเวลา แต่ความคิดและจิตใจจะต้องไม่มีวันเก่าตามกาลเวลา
เราเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปีใหม่กันมาโดยตลอด ด้วยความพยายามที่จะลืมความเลวร้ายทั้งหลายที่ผ่านมาแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ในปีใหม่ในทุกๆ ปี แต่เมื่อผ่านพ้นปีใหม่ไป ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิมเป็นวัฏจักร ชีวิตเราเป็นวัฏจักรเป็นวงจร วงจรสั้นๆ ที่เรารับรู้ได้ก็ คือ การหายใจเข้าและออก การตื่นขึ้นจากการนอนหลับจนเราไปเข้านอนพักผ่อนในแต่ละรอบวัน แต่ละรอบเดือนของรายได้ที่เข้ามาในชีวิต แต่ละรอบของฤดู และแต่ละรอบปี ลองคิดดูสิครับว่า กว่าจะมาถึงรอบปีนั้น เราได้ทำอะไรไปตั้งหลายอย่าง มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในชีวิตเรา ทำไมเราต้องรอจนถึงสิ้นปีและปีใหม่ ทำไมเราไม่ฉลองการมีชีวิตอยู่สำหรับแต่ละรอบการหายใจเข้าออกในครั้งต่อๆ ไป ทำไมเราไม่ฉลองกับการที่เราได้ตื่นลืมตาขึ้นมาดูโลกในทุกวันตอนเช้าโดยที่เราไม่ได้หลับตายไป ทำไมเราไม่ตั้งสติในทุกเรื่องทุกจังหวะเวลาของชีวิต เฉลิมฉลองการมีชีวิตอยู่อย่างมีความหมายต่อตนเองและต่อผู้อื่น เพื่อที่จะได้สร้างคุณค่าให้กับโลกที่เราอยู่ กับสังคม ประเทศชาติ และคนที่เรารักทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าเก่าหรือใหม่ มันก็ คือ รองเท้า มันมีคุณค่าในตัวเองซึ่งขึ้นอยู่กับคนที่ใช้งาน บางครั้งหรือในหลายครั้งผมก็ใช้ของเก่า ของมือสอง เพราะว่าไม่มีโอกาสได้ใช้ของใหม่ แต่ของเก่าที่ผมใช้ก็ดีที่สุดสำหรับผมในบริบทที่ผมรับได้ มิใช่ว่าของใหม่จะดีสำหรับผมเสมอไป ถ้าในปีเก่าเป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เราก็ต้องจดจำและสานต่อสิ่งที่ดีที่สุดให้คงอยู่ รักษามันไว้ แต่ถ้ามันจะต้องจากคุณไป เราก็ต้องปล่อยมันไป ก็จงอย่าเสียใจ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เที่ยง แล้ววัฎจักรต่างๆ ในชีวิตก็จะวนเข้ามาอีก เพียงแต่เราจะปรับตัวเราในการสร้างคุณค่าต่างๆ ในชีวิตเราได้อย่างไร
ขอให้ทุกท่านมีความสุข มีสติกับทุกลมหายใจเข้าและออก ทุกวันที่ตื่นตอนเช้า ทุกวันที่เงินเดือนออก ที่เวลาที่เปลี่ยนฤดูกาล และทุกปีที่มีการเปลี่ยนแลง และตลอดเวลาที่เกิดเปลี่ยนแปลงในชีวิตครับ สุขสันต์ปีใหม่ 2555 อีกครั้งครับ