วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

Life -- บทสุดท้ายมักจะเป็นตัวกำหนดบทแรกๆ เสมอ


ผมไม่ได้เขียนบทความนานมากครับอีกแล้ว  ประมาณหนึ่งเดือนเห็นจะได้  มันเป็นความกลัวอย่างหนึ่งของผมที่ซ่อนอยู่  กลัวที่จะเขียน   ผมก็เลยออกไปจากสังคม FaceBook เลยครับ เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ  แต่ก็ OK ครับ  ผมยังอยู่ได้ปกติครับ  แสดงว่าไม่ได้ติด FB  หลายๆ คนเจอผมก็ถามถึงบทความที่ผมเขียน  เพราะว่าผมยัดเยียดให้อ่านทาง FB  แต่หลายๆ คนคงจะไม่รู้ว่ากว่าที่ผมจะกลับมาเขียนได้นั้นก็ไม่ง่ายนัก  เพราะว่าผมก็มีข้ออ้างต่างๆ มากมาย  ที่เห็นเด่นชัดก็ คือ ผมกำลังอ่านหนังสืออยู่เพื่อให้เข้าใจเรื่องราวอะไรบางอย่างที่ผมกำลังสนใจเพื่อจะได้วัตถุดิบมาเขียนเรื่องราวต่างๆ     แต่พอได้เริ่มเขียนแล้วมันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยครับ  บางครั้งเราเองก็สร้างกำแพงขังตัวเองอย่างง่ายๆ จนกลายเป็นกับดักความคิด
                     
วันนี้ผมมีโอกาสได้ไปสอบการเสนอหัวข้อวิทยานิพนธ์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง   ที่จริงแล้ว เรื่องการสอบวิทยานิพนธ์นั้นเป็นอาชีพของผมและพวกอาจารย์ทั้งหลายโดยเฉพาะในระดับบัณทิตศึกษา  ในระหว่างที่ทำการสอบโดยมีการตั้งคำถามต่างๆ นั้น  ทางอาจารย์ผู้สอบได้อ้างถึงบทต่างๆ ในรายงานการนำเสนอหัวข้อวิทยานิพนธ์นั้น   โดยเฉพาะบทแรก ประเด็นก็คือ นักศึกษาทั้งหลายจะมีปัญหาในการเขียนบทแรก   ซึ่งเป็นบทที่สำคัญอย่างยิ่ง   แต่ในทางตรงกันข้าม   บทแรกของ Thesis ทั้งหลายนั้นควรจะเป็นบทสุดท้ายที่ต้องเขียน   เพราะว่าเมื่อกรรมการอ่านบทแรกแล้วน่าจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดว่านักศึกษาจะทำอะไร    แล้วผมก็หวนมานึกถึงบทสุดท้าย  
                     
หนังสือทุกเล่มมีบทสุดท้าย   หนังทุกเรื่องมีตอนจบ    หรือถ้าจบไม่ลงแล้วดันทุรังไปเรื่อยๆ ก็ต้องมีวันจบอยู่ดี   แล้วบทแรกและบทสุดท้ายนั้นสัมพันธ์กันอย่างไร  เราอาจจะจำถึงเหตุการณ์วันแรกของชีวิตไม่ได้   แต่ผมก็ได้เห็นและยังจำเหตุการณ์วันแรกของลูกชายผมที่เกิดมาดูโลกได้   บทแรกของชีวิตเขาที่ไม่ได้เขียนเอง   แต่บทๆ ต่อๆ ไปของชีวิตเขานั้นก็อยู่ในกำมือเราพ่อแม่ที่จะปูทางรวมทั้งเขาเองก็ต้องเป็นคนเขียนบทสุดท้ายของชีวิตเขา     หรือไม่ก็เราไม่ได้มีสิทธิ์เขียนอะไรเลย บทบาททั้งหมดในชีวิตนั้นมีคนกำหนดมาอยู่ก่อนแล้ว   เราก็แค่เล่นไปตามบทบาทที่ใครก็ไม่รู้เขียนมา  จริงหรือไม่   แต่ที่แน่ๆ เราไม่รู้ว่าบทสุดท้ายจะเป็นอย่างไรจะมาถึงเมื่อไร
                   
บททุกบทของชีวิตหรือในหนังสือย่อมสัมพันธ์กับบทสุดท้ายเสมอ   คราวนี้ถ้าเราอยากรู้ว่าบทแต่ละบทของชีวิตเรา  ย่างก้าวแต่ละย่างก้าวของชีวิตนั้น มาถูกทางหรือไม่   เราก็คงต้องไปดูบทสุดท้ายของชีวิตเราหรือเป้าหมายของชีวิตเรานั่นเอง  ทั้งนี้ขึ้นกับว่าเราจะวาดภาพบทสุดท้ายเป็นอย่างไร
                     
บางครั้งในระหว่างชีวิตหรือระหว่างบทที่ยังไม่ถึงบทสุดท้ายนั้น  เราอาจจะต้องจบบทใดบทหนึ่งลงไป  โดยที่อาจจะไม่ได้มีส่วนสัมพันธ์กับบทสุดท้ายเลย หรืออาจจะไม่ได้ประทับใจหรือมีประโยชน์ในชีวิตต่อไปแล้ว ก็อาจจจะสร้างความผิดหวังให้กับเจ้าของบทนั้น   แต่ว่าเรายังมีหน้ากระดาษเหลืออยู่ใช่ไหมครับหรือยังมีชีวิตอยู่   เราก็เริ่มเขียนบทใหม่ของหนังสือหรือช่วงชีวิตใหม่ต่อไปได้  เหมือนกับชีวิตที่ยังมีเวลาเหลืออยู่  ประเด็นก็ คือ แล้วบทสุดท้ายของเรานั้นควรจะจบอย่างไร  เราจะวางแผนหรือมองไปในอนาคตอย่างไรดี
                   
มีหนังสือหลายเล่มที่มีบทต่างๆ ที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับบทสุดท้ายเลย  แต่เรื่องราวในแต่ละบทนั้นก็กลับเป็นพื้นฐานที่สำคัญให้บทต่อไปเพื่อที่จะไปถึงบทสุดท้าย   หรือบางครั้งการเดินทางมาผิดทางจนเราจะต้องจบบทนั้นลงไปเพราะว่าเรารู้ว่ามันไม่ใช่   เราก็จะต้องจบบทนั้นลงด้วยความล้มเหลว   จนบางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่า  เรานั้นโชคดีที่ล้มเหลว   ไม่อย่างนั้นเราอาจจะเสียหายมากกว่านั้น  บางครั้งเราอาจจะต้องล้มเลิกการวิจัยนั้นไปเพราะผิดทาง   ในมุมมองของงานวิจัยในการทำ Thesis ความล้มเหลวในการวิจัยนั้นก็ไม่ได้ถือว่าเป็นความผิดพลาดในการทำงาน  แต่เราสามารถมองว่าเป็นการค้นพบอย่างหนึ่งที่เราสามารถบอกถึงว่าความล้มเหลวนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร   เพื่อให้ข้อมูลกับคนอื่นๆ ที่มาทีหลังจะได้หลีกเลี่ยงไม่ต้องดำเนินมาทางนี้ที่เราล้มเหลวมาก่อน  ประสบการณ์จากความล้มเหลวนั้นอาจจะเป็นพื้นฐานของความสำเร็จในอนาคตก็ได้   ไม่ใช่ก็ได้   แต่มีความเป็นไปได้สูงขึ้นอยู่กับตัวเรา
                 
สุดท้ายแล้วทุกก้าวแรกที่ก้าวไปย่อมหมายถึงปลายทางที่เป็นก้าวสุดท้ายเสมอ  แต่เมื่อใดที่ก้าวพลาดไปก็ก้าวใหม่ได้  ประโยชน์ที่ได้ก็ คือ คนที่ตามมาข้างหลังจะได้ไม่ก้าวตามมาผิดพลาดเหมือนเราอีก  แล้ววันนี้ท่านก้าวมาถึงไหนแล้ว  ถึงบทไหนกันแล้ว  เริ่มก้าวบทใหม่กันกี่บทแล้ว  สำหรับผมวันนี้ผมได้เริ่มบทใหม่อีกบทหนึ่งของหนังสือชีวิตของผม  ก็ไม่ใช่ว่าบทที่ผ่านมานั้นไม่ถูก ใช่หรือไม่สนุก  แต่กลับเป็นพื้นฐานที่ดีในการเขียนบทใหม่ต่อไป  เพื่อที่จะสรุปให้ถึงบทสุดท้ายที่สมบูรณ์ให้ได้