วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555

My Journal -- รดน้ำต้นไม้ เติมเต็มชีวิต


สองสามวันนี้ผมมีกิจกรรมใหม่ๆในชีวิตเกิดขึ้นมาก็คือ การรดน้ำต้นไม้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ทำกิจกรรมแบบนี้มานานแล้ว   เพราะว่าที่บ้านตนเองนั้นก็มีคนทำให้อยู่แล้วมีคนดูแลอยู่แล้ว แต่ผมก็ต้องไปรดน้ำต้นไม้ให้บ้านของน้องสาวที่อยู่ในละแวกเดียวกัน  เพราะว่าเธอไม่อยู่บ้านไปต่างประเทศ เธอฝากผมให้ช่วยดูแลให้ ที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก แต่การรดน้ำต้นไม้นี้ทำให้ผมฉุกคิดถึงการดำเนินงานในกิจกรรมต่างๆ การดำเนินชีวิต การใช้ชีวิต การรักษาคุณค่าต่างๆในชีวิต รวมทั้งการรักษาชีวิตของเราเองด้วย

เมื่อก่อนนั้นผมเองเป็นวิศวกร  มุมมองของกิจกรรมของวิศวกรน่าจะเป็นกิจกรรมที่ต้องดูโดดเด่น  ต้องเป็นผู้สร้างต้องเป็นผู้นำไม่ใช่ผู้ตาม  ดังนั้นผมจึงมองข้ามกิจกรรมของการซ่อมบำรุงรักษาไป  ไม่คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญเท่าใดนัก  เป็นเรื่องหลังบ้านดูแล้วไม่โดดเด่นเท่าใดนั้น แต่ที่จริงแล้วผมคิดผิดไปถนัดเลย  เพราะกิจกรรมการบำรุงรักษาและกิจกรรมการซ่อมนั้นมีความสำคัญเหมือนๆ กับกิจกรรมที่สร้างคุณค่าต่างๆ ในด้านหน้าฉาก  ถ้าเครื่องจักรเสียไปก็ทำงานไม่ได้  เพียงแต่ว่าเราจะมองอย่างไร   เราซื้อต้นไม้มาปลูกแรกๆ ก็ดูสวยงาม  แต่ถ้าไม่หมั่นรดน้ำพรวนดินแล้ว  ผลจะเป็นอย่างไรก็รู้ๆ กันอยู่   เรื่องนี้ไม่ต้องพูดมากความ

คนเราส่วนใหญ่ก็มองกันแค่ภาพสั้นๆ (Snapshot)  เช่น  แค่ตอนซื้อมา หรือแค่ตอนได้มา ไม่มองออกไปไกลจนถึงการใช้งานในอนาคตว่าเป็นอย่างไร การมองให้ตลอดการใช้งานหรือตลอดวงจรชีวิต  นี่เป็นการมองแบบองค์รวมหรือเป็นการมองเชิงกระบวนการ  มองกันทั้งแต่ต้นจนจบ  ความจริงแล้วพื้นฐานของสิ่งของต่างๆ หรือคุณค่าต่างๆ นั้นมันก็มีวงจรชีวิตของมัน เราเป็นผู้ใช้งานหรือหาประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นหรือคุณค่าเหล่านั้น  เราจะทำอย่างไรให้เราสามารถใช้งานได้ตลอดช่วงอายุการใช้งาน   ผมว่าในสังคมเรานั้นขาดพื้นฐานการคิดแบบนี้ เราคิดกันแค่วันนี้ คิดกันสั้น เราไม่ได้มองกันให้ยาวจนถึงจุดจบของวงจรชีวิตของสิ่งต่างๆ  เพื่อการเตรียมพร้อมในแต่ละช่วงเวลาของการใช้งานของสิ่งเหล่านั้น

กิจกรรมของการบำรุงรักษาและการซ่อมแซมนั้นจะทำให้เราสามารถมีสิ่งของหรือมีทรัพยากรใช้งานใช้ประโยชน์ได้ไปตลอดช่วงอายุการใช้งานอย่างคุ้มค่า  และที่สำคัญสิ่งของเหล่านั้นจะมีพร้อมให้เราใช้งานเมื่อเราต้องการใช้งาน (Available) ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สำคัญของแนวคิดลอจิสติกส์เลยครับ สิ่งของหรือคุณค่าเหล่านั้นจะถูกใช้งานได้อย่างคุ้มค่าหรือไม่ จะต้องซ่อมแซมมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานที่ถูกวิธีเท่านั้น ยิ่งการใช้งานที่ผิดวิธีจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงก็มากขึ้น   และยิ่งถ้าไม่รู้จักการซ่อมบำรุงอย่างถูกวิธีด้วยแล้ว โอกาสที่จะใช้งานไม่ได้ในขณะที่เราต้องการใช้งานด้วยแล้ว  ผลที่เกิดขึ้นก็จะทำความเสียหายให้กับผู้ใช้งานได้ตรงทำให้เสียโอกาสที่ดีไปได้ ชีวิตเราก็เช่นกันสุขภาพที่ดีหรือแย่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิต  และการดูแลบำรุงรักษาสุขภาพ  หลักการนี้ก็เป็นหลักการเดียวกันกับการบำรุงรักษาเครื่องจักรหรือรถยนต์ที่เรารัก บางคนรู้จักรักษารถยนต์เป็นอย่างดี แต่กลับไม่เคยดูแลรักษาสุขภาพตัวเอง และที่สำคัญดูแลรักษาสุขภาพจิตใจด้วย

การดำเนินงานหรือการใช้ชีวิตนั้น ไม่ได้อยู่กับปัจจุบันแต่เพียงอย่างเดียว หลายครั้งเรามักจะได้ยินคำกล่าวว่า "มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน" นั่นก็จริง  เพราะเรามีชีวิตที่มีคุณค่าหรือมีประโยชน์ได้นั้นก็เพราะการดำเนินงานในการสร้างคุณค่าหรือประโยชน์ในปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกันเราก็จะต้องเตรียมพร้อมหรือมองไปในอนาคตด้วย  หรือมีการวางแผนไว้สำหรับชีวิตหรือการดำเนินงานในวันข้างหน้า  เพื่อรักษาคุณค่าเดิมไว้หรือไม่ก็ทำให้ดีขึ้นกว่าเก่า แล้วเราจะวางแผนอย่างไรเล่า  เรื่องราวในอดีตนั้นก็ยังสามารถที่บอกเราได้ ร่องรอย (Footprint) ต่างๆ ที่เป็นสมรรถนะของการดำเนินงานต่างๆ ของเราทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิตสามารถถูกใช้เป็นข้อมูลที่สำคัญในการตัดสินใจวางแผนของการดำเนินงานหรือการใช้ชีวิตในวันข้างหน้า

วันนี้เรารดน้ำต้นไม้ชีวิตของเราหรือยัง วันนี้เราวางแผนการดำเนินงานของต้นไม้ชีวิตเราหรือยัง วันนี้เราเตรียมพร้อมสำหรับหมุดสุดท้ายปลายทางของชีวิตเราหรือยัง เพราะว่าเราเองก็ไม่รู้ว่าหมุดหมายสุดท้ายจะเป็นเมื่อไหร่  แต่ที่แน่เราก็ต้องบำรุงรักษา  เติมเต็มให้กับการทำงานและชีวิตเราทุกวันเสมอ เพื่อว่าวันข้างเราจะได้มีสิ่งของทรัพยากรไว้พร้อมใช้งานและชีวิตอยู่เพื่อสร้างคุณค่าและประโยชน์ให้กับตัวเองและคนอื่นๆรอบข้างและในสังคมต่อไปจนกว่าเราจะเดินทางถึงหมุดหมายสุดท้ายของชีวิตเรา