วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

My Thought -- จังหวะความคิด….จังหวะชีวิต....บรรเลงเพลงแห่งโลก

ตื่นเช้าครับขับรถไปส่งลูกไปโรงเรียน  เปิดวิทยุฟังเพลงอะไรก็ไม่รู้   ไม่รู้จัก  ไม่ใช่เพลงไทย  ไม่ได้ฟังเนื้อร้อง  แต่ก็ฟังได้เพลินๆ ดี  ทำให้สมองและร่างกายของเราสอดคล้องไปกับเพลงเหล่านั้น   ตอนแรกๆที่ฟังเพลงนี้  สิ่งที่กระทบเข้าโสตประสาทแรกเลยก็ คือ จังหวะ  ก็เลยได้แนวคิดมาคุยกันในประเด็นเรื่อง “จังหวะ”   เพลงทุกเพลงต้องมีจังหวะ  เพราะถ้าไม่มีจังหวะแล้ว  เพลงก็จะไม่เป็นเพลง   เพราะว่าเพลงนั้นมีองค์ประกอบของเสียงหรือเครื่องดนตรีอีกหลายอย่างๆ เครื่องดนตรีทุกชิ้นจะเล่นให้เข้าจังหวะกัน   สรรพสิ่งต่างๆในโลกนี้เองก็มีจังหวะของตัวเองที่เข้ากันหรือสอดคล้องกัน  แม้แต่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาก็มีองค์ประกอบต่างๆ ที่จะต้องทำงานให้เข้ากันถูกจังหวะกัน จึงจะทำงานให้ประโยชน์กับมนุษย์ได้

แล้วจังหวะของดนตรีนั้นก็จะต้องเข้ากับจังหวะการฟังของคนที่ฟังด้วย  ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่เร็วร้อนแรงหรือจังหวะที่ช้านุ่มนวล   เราเองก็จะต้องเลือกให้เข้ากันหรือเหมาะเจาะลงตัว   ประเด็นนี้เป็นอีกประเด็นที่สำคัญมาก  เพราะเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องมาจากจังหวะอีกทีหนึ่ง จังหวะเร็วหรือช้าไม่สำคัญ  เพียงแต่มันลงตัวและต่อเนื่องไปได้หรือไม่ คงไม่ต้องบอกว่าความลงตัวหรือเหมาะสมเป็นอย่างไร  เพราะว่าเราคงจะเข้าใจได้ไม่ยากนัก  ถ้าเราเอาประโยชน์ (Value) เป็นตัวตั้ง

ที่สำคัญเราต้องรู้จักจังหวะของชีวิตตัวเอง  รู้สึกการสร้างและควบคุมจังหวะชีวิต   ไม่ว่าจะเป็นชีวิตที่เรียบง่าย  ชีวิตที่ธรรมดาทั่วไป  หรือชีวิตที่โลดโผนจนแทบไม่น่าเชื่อ    ทุกจังหวะชีวิตล้วนถูกการสรรค์สร้างจากความคิดของเราเองภายใต้จังหวะของร่างกายเช่น  จังหวะลมหายใจ  จังหวะการเต้นของหัวใจ  ผสมผสานกับความคิดความรู้สึกจากสมองและจิตใจของเราเอง   จนออกมาเป็นพฤติกรรมของมนุษย์เรา  ส่วนการดำรงชีวิตอยู่ให้รอดในสังคมทั่วไป  เราก็จะต้องปรับจังหวะความคิดและร่างกายของเราให้กับสภาพแวดล้อมและชีวิตอื่นๆในสังคม   เหมือนนักดนตรีที่เล่นเครื่องดนตรีต่างๆ ตามจังหวะและท่วงทำนองของเพลงแต่ละเพลงที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นมาโดยใครก็ไม่รู้

แต่ถ้าเราผิดจังหวะ  เพลงมันก็เพี้ยน  ไม่ได้ประโยชน์   จังหวะความคิดกำหนดจังหวะของร่างกายและอารมณ์   เหมือนกับกายกับจิตที่สัมพันธ์กัน   ที่เหลือก็คือ เรากำหนดจังหวะชีวิตที่เป็นจังหวะความคิดและจังหวะของร่างกายให้ตรงกับจังหวะของสังคมและสิ่งแวดล้อม  คนเราอยู่ในสังคมได้ก็เพราะปรับจังหวะชีวิตของเราให้เข้ากันหรือสอดคล้องกันกับชีวิตอื่นๆในสังคม  คนที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายนั้น  ไม่ใช่เพราะความโชคดีอะไรหรอก  แต่เขารู้จักปรับจังหวะชีวิตของเขาให้กับกับจังหวะของสังคมเพื่อหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง  หรือสร้างประโยชน์ให้กับสังคมรอบข้าง  มาฟังเสียงจังหวะความคิดของตัวเองเสียใหม่  แล้วจึงปรับจังหวะชีวิตให้เข้าเสียงเพลงของสังคมและโลกรอบๆ ตัวเรา  เพื่อประโยชน์ของคนรอบข้างและตัวเอง   และทำให้สรรพสิ่งบนโลกนี้ร่วมกันบรรเลงเพลงเพลงแห่งโลกอย่างสวยงามและไพเราะตลอดไปและอย่างยั่งยืน